วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด(ผู้ชนะสิบทิศ 4)


"แต่อาวุธคมนั้นลำพังมิรู้จักใช้ประโยชน์จะพึงมีอยู่หรือ"

ผู้ชนะสิบทิศ 4
ยาขอบ

ในองค์กร ย่อมมีทั้งบุคคลที่เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา
ผู้บริหารจึงพึงเลือกคนกับงานให้เหมาะสม
หากมอบหมายสะเปะสะปะ องค์กรชั้นนำที่มากด้วยผู้เชี่ยวชาญก็จะกลับกลายเป็นองค์กรที่มีแต่ผู้คนที่สับสนไม่ตรงสายงาน

ผู้บริหารบางคนใช้แต่คนที่เก่งในการประจบประแจง
การประจบประแจงเลียแข้งเลียขาไม่อาจนับเป็นสาขาของความเชี่ยวชาญ


ต้นเรื่อง

ผู้ชนะสิบทิศ นวนิยายกึ่งประวัติศาสตร์ ผลงานชิ้นเอกของยาขอบ เป็นเรื่องราวของนักรบผู้มีนามว่า จะเด็ด ผู้ได้ชื่อว่าเป็น ผู้ชนะสิบทิศ เมื่อขึ้นครองราชย์เป็น พระเจ้าบุเรงนองแห่งกรุงหงสาวดี จะเด็ดผู้เก่งกล้าสามารถในเชิงรบ ขณะที่มีทีเด็ดในเชิงรัก หญิงงามมากหลายพากันหลงเสน่ห์จะเด็ด ทำให้นวนิยายนี้มีรสชาติ เล่มนี้ฟังแบบหนังสือเสียง ของ Meb

Quote ที่น่าสนใจเพิ่มเติมจากหนังสือเล่มนี้

"ตัวใครใครอาทรชีวิตตัว  ไม่อาจใส่ใจด้วยธุระและชีวิตคนอื่น"

"ความชอบของบรรดาข้าทหารทั้งนั้น จะพึงปรากฏขณะ เกิดศึกดอก"

"อุปมาหนึ่งมวยเสียเชิง ต้องศอกแล้วมาปะทะเข่าซ้ำไม่สมควรจะวู่วาม"


จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด



ไม่มีความคิดเห็น: