วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ถ่ายโอนรพสต. ระบบการเงินสุขภาพปฐมภูมิ...ต้องถ่ายเท

เมื่อรพสต.ถ่ายโอนไปอบจ. ความสัมพันธ์ของ CUP (Contracting Unit for Primary Care) กับลูกข่าย ที่เป็น Sub Contracting Unit ก็เปลี้ยนไป๋ 

เมื่อผู้คนใดคิดว่าอีกผู้คนไม่ใช่พวกเดียวกัน ก็ย่อมคิดเล็กคิดน้อย สิ่งใดที่เป็นเรื่องง่ายก็กลายเป็นเรื่องยาก สิ่งที่เคยลดขั้นตอนเพื่อประโยชน์ของประชาชน ก็กลับต้องเพิ่มเงื่อนไขขึ้น เพราะเราไม่ใช่พวกเดียวกัน

แรกเริ่มเดิมทีของการทำระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า ตั้งสปสช.ขึ้นมา ก็หวังได้เงินรายหัวประชากรมาเป็นก้อนใหญ่ เพื่อดูแลสุขภาพประชาชน โดยจะมุ่งเน้นไปที่ระบบปฐมภูมิ เพื่อคนมีสุขภาพดีให้มากที่สุด และป่วยน้อย ๆ เงินค่าประกันสุขภาพที่ได้มาจากรัฐก็จะถัวจ่ายได้เพียงพอ

ในยุคเริ่มต้นสปสช.จึงผลักดันให้เกิด PCU (Primary Care Unit) แต่ต่อมาไม่ทราบด้วยเหตุผลกลใด พลันล้มเหลวไป สปสช.ระยะหลังจึงทุ่มเทงบประมาณไปด้านการรักษามากขึ้น ยิ่งทำ ยิ่งใช้เงินมากขึ้น ยิ่งเน้นด้านรักษามากขึ้น เน้น Tertiary Care มากขึ้น เงินรายหัวที่ผ่าน CUP ก็โปะไปที่ภาครักษามากขึ้น

หมวดเงินสปสช. แยกเป็น OP , IP , PP ที่ไม่สะท้อนถึงระบบปฐมภูมิ คนทำงานสปสช.บางคนถึงกับคัดค้านเมื่อกระทรวงสาธารณสุขจะทำ เครือข่ายสุขภาพปฐมภูมิ PCC (Primary Care Cluster)

ถึงเวลาที่ต้องปรับระบบการเงินการคลังให้แยกส่วน สุขภาพปฐมภูมิ ออกมาให้ชัดเจน

คณะกรรมการระบบสุขภาพปฐมภูมิ ตามพรบ.ระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ.2565 ควรเร่งหยิบประเด็นค่าใช้จ่ายในการรับบริการสุขภาพปฐมภูมิ ตามมาตรา 16 วรรค 2 แยกเงินรายหัวประชากรสำหรับระบบสุขภาพปฐมภูมิ มาจัดการโดยด่วน

ขั้นตอนคือ

1. เร่งจัดทำ ชุดสิทธิประโยชน์หลักด้านสุขภาพ และชุดสิทธิประโยชน์ เสริม 1 และเสริม 2 ที่ ศ.(กิตติคุณ) นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล เสนอไว้ในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข

2. แปลงค่างานตามข้อ 1. เป็นเม็ดเงินค่าใช้จ่ายรายหัวประชากรทุกคนทุกสิทธิ เป็นค่าใช้จ่ายรายหัวสุขภาพปฐมภูมิ

3. ยึดหลักการไม่ตามจ่ายเมื่อสถานะผู้ป่วยเป็นทุติยภูมิขึ้นไป

4. ทุกกองทุนจ่ายเงินล่วงหน้าในข้อ 2 ให้หน่วยบริการปฐมภูมิโดยตรง (ทั้งกองทุนสปสช. กองทุนประกันสังคม กองทุนข้าราชการ กองทุนท้องถิ่น) กองทุนอื่นนอกเหนือจากสปสช.อาจเพิ่มเติมเงินในชุดสิทธิประโยชน์ เสริม 1 ประชาชนอาจเพิ่มเติมการประกันใน เสริม 2 และอาจให้สปสช.เป็นผู้จัดการระบบการเงินการคลัง

หากหน่วยบริการปฐมภูมิ ได้รับเงินสุขภาพปฐมภูมิรายหัวประชากร ก็จะสามารถบริหารจัดการโดยมุ่งเน้นเพื่อสุขภาพที่ดีของประชากรใน Catchment area ของตนได้บนพื้นฐานประชาชนมีส่วนร่วม

ถ่ายเท งบประมาณ อย่างนี้ได้ ประชาชนจะได้ประโยชน์ หน่วยบริการปฐมภูมิจะได้ประโยชน์ หน่วยบริการทุติยภูมิ/ตติยภูมิจะได้ประโยชน์ กองทุนทุกกองทุนจะได้ประโยชน์ และสุดท้าย ประเทศชาติจะได้ประโยชน์



ไม่มีความคิดเห็น: