"โรคประจำตัวของคนที่ถือดีในภูมิปัญญา นั่นคือเชื่อว่าตัวเองคิดอ่านชาญฉลาดที่สุด"
มังกรคู่สู้สิบทิศ 10
หวงอี้ : น.นพรัตน์
ทุกผู้คนมักเชื่อว่าตนเองชาญฉลาด
แม้คนที่โง่ที่สุด ก็ยังคิดว่าตนเองฉลาด
ไม่เพียงแค่นั้น ทุกผู้คนยังเชื่อมั่นว่าตนฉลาดกว่าผู้อื่น
ขณะเดียวกันก็ไม่ปรารถนาให้ผู้หนึ่งผู้ใดมาดูหมิ่นดูแคลนว่าตนเป็นคนโง่
ในองค์กร
ผู้บริหารทุกคนก็เชื่อว่าตนฉลาดกว่าผู้อื่น และมักแสดงออกถึงความฉลาดอยู่ร่ำไป
เมื่อผู้บริหารแสดงความฉลาด ผู้ปฏิบัติย่อมหยุดที่จะคิด แลงดแสดงความคิดเห็น
หลายครั้งการแสดงความฉลาดกลับกลายเป็นแสดงความโง่เขลาเบาปัญญา
เป็นผู้บริหาร ไม่จำต้องฉลาดเกินผู้อื่นเสมอ แกล้งโง่บ้าง ดีกว่าแสดงความฉลาดอย่างโง่ ๆ เป็นที่โจษจัน
ต้นเรื่อง
มังกรคู่สู้สิบทิศ วรรณกรรมจีนแต่งโดย หวงอี้ ในรูปแบบนิยายอิงประวิติศาสตร์ เป็นเรื่องราวของการก่อตั้งราชวงศ์ถัง ตัวเอกของเรื่องเป็นสองเด็กกำพร้าแห่งเมืองหยางโจว โค่วจง และ ฉีจื่อหลิง ใช้ชีวิตจากการเป็นอันธพาล ลักเล็กขโมยน้อย ต่อมาฟ้าประทานให้ทั้งสองได้รับเคล็ดวิชา จนสามารถรวบรวมสมัครพรรคพวกเป็นกองกำลังเข้าร่วมกระบวนการชิงแผ่นดิน ไม่ว่าเรื่องราวจะหนักหนาสาหัสถึงกับต้องแลกด้วยชีวิตปานใด คุณธรรมก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่สองสหายยึดมั่น มังกรคู่สู้สิบทิศ แบ่งออกเป็น 2 ภาค ภาคแรก มังกรคู่สู้สิบทิศ 10 เล่ม และภาค 2 มังกรคู่สู้สิบทิศ ภาคสมบูรณ์ 11 เล่ม
Quote ที่น่าสนใจเพิ่มเติมจากหนังสือเล่มนี้
"คนมักคิดหวังโชคช่วย"
"ผู้บัญชาการที่ปราชัย ไม่พึงอวดความกล้าหาญอีกต่อไป"
"พิชิตชัยไม่ลำพอง พ่ายแพ้แต่ไม่ท้อถอย"
หมายเหตุ
จินตนาการจากเพื่อนเฟสบุ้คบางคน
@พงษ์ศักดิ์ ฉิ่งสุวรรณโรจน์
พวกถือดี เป็นพวกติดกับดัก”อัตตา” ที่ผยองลำพองตัวตน
@สุธาทิพย์ จุลบุตร
ถือดีกับน้ำล้นแก้ว เหมือนกันมั้ย
จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น