"ท่านไม่ขึ้นรถ ก็อย่าไปขวางผู้อื่นขึ้นรถ"
ยอดกุนซือทะลุมิติ 2
มู่อี้-ไผ่เขียว
คนที่ขวางทางผู้อื่น มีได้สองประเภท
หนึ่งคือไม่เจตนา แม้ไม่เจตนา แต่คนจำพวกนี้ก็มักบังเอิญให้ขวางทางผู้อื่นอยู่ร่ำไปทั้งที่ไม่ตั้งใจ ทำให้เป็นที่จงเกลียดจงชัง
หนึ่งคือเจตนา เหตุเพราะเห็นเขาได้ดีแล้วไม่พอใจ อยากจะมีหรือเป็นอย่างเขาบ้าง เรียกว่า อิจฉา เหตุเพราะไม่อยากให้คนอื่นได้ดี เห็นเขาได้ดีแล้วทนนิ่งอยู่ไม่ได้ เรียกว่า ริษยา
คนที่ไม่เจตนาขวางทางผู้อื่น มีสองประเภท คือไม่รู้ตัว กับรู้ตัว คนจำพวกนี้เมื่อรู้ตัวก็จะขยับขยายหลีกทางให้
คนที่เจตนาขวางทางผู้อื่น ไม่ว่าจะจากอิจฉาหรือริษยา ย่อมไม่หลบทางให้ใคร
จะขวางทางใคร สังเกตมือเท้าเขาบ้าง...
ต้นเรื่อง
ยอดกุนซือทะลุมิติเป็นนิยายย้อนยุค แนวสืบสวนสอบสวน โดยตัวเอกของเรื่องเป็นแพทย์นิติเวชในทีมตำรวจฝ่ายอาชญากรรมในสมัยปัจจุบัน จู่ ๆ ทะลุมิติย้อนยุคกลับไปอยู่ในร่างของ เมิ่งเทียนฉู่ ในสมัยราชวงศ์หมิง เมิ่งเทียนฉู่คนเดิมเป็นคนที่ไม่เอาถ่าน ใช้ชีวิตเสเพลแต่เมิ่งเทียนฉู่คนใหม่ กลับมีความสามารถในการคลี่คลายคดีและชันสูตรพลิกศพเป็นเลิศ ต่อมาได้รับตำแหน่งกุนซือฝ่ายกฎหมายและลงทัณฑ์ ไขคดีในยุคอดีตหลายคดีโดยอาศัยความรู้นิติเวชสมัยใหม่
ยอดกุนซือทะลุมิติ แต่งโดยมู่อี้ ฉบับที่ 2 แปลโดยไผ่เขียว เดิมระบุว่า 3 เล่มจบ แต่ต่อมายืดยาวไปถึงเล่ม 10
หมายเหตุ
จินตนาการจากเพื่อนเฟสบุ้คบางคน
Suriya Sathienkit-umpai
คนกำลังปวดอึ อย่าขวางคนจะไปส้วม มีโกรธและอาจทำร้ายเอาได้ ฮิฮิฮิ.....
จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น