สะกดใจ (รามเกียรติ์ ๐๖๖)

เมื่อนั้น

อสุรผัดผู้ใจแกล้วกล้า

ฟังพระอัยกีมารดา

อสุราเงือดงดสะกดใจ

แต่อาฆาตมาดหมายอยู่เป็นนิจ

จะเว้นว่างห่างคิดก็หาไม่

รักษาตัวมิให้มีภัย

อยู่ในปราสาทรูจี

เมื่อคราวพญาอนุชิตหรือหนุมานไปช่วยท้าวทศคิริวงศ์หรือพิเภกรบกับท้าวมหาบาลได้พบกับนางเบญกายอีกครั้ง และครั้งนี้ได้กำเนิดบุตรหน้าเป็นวานรกายเป็นยักษ์ชื่อว่าอสุรผัด ส่วนนางมณโฑคลอดลูกติดจากทศกัณฑ์ ซึ่งท้าวคิริวงศ์เข้าใจว่าเป็นบุตรของตน ตั้งชื่อว่าไพนาสุริย์วงศ์ ท้าวคิริวงศ์เลี้ยงไพนาสุริย์วงศ์และอสุรผัดมาคู่กันด้วยความรักใคร่ ต่อมาวรณีสูรพี่เลี้ยงไพนาสุริย์วงศ์ยุยงให้ไพนาสุริย์วงศ์รู้ว่าบิดาที่แท้จริงคือทศกัณฑ์ ไพนาสุริย์วงศ์สอบถามนางมณโฑจนรู้ความจริง แล้วได้ทราบว่ายังมีเพื่อนของทศกัณฑ์อยู่ชื่อท้าวจักรวรรดิเมืองมลิวัน จึงไปขอร้องให้ท้าวจักรวรรดิมาช่วย ท้าวจักรวรรดิยกทัพมากรุงลงกาจับท้าวคิริวงศ์ได้จะฆ่าเสียแต่ไพนาสุริย์วงศ์เห็นแก่ที่เคยเลี้ยงตนมาจึงขอชีวิตให้จองจำไว้ ท้าวจักรวรรดิมอบราชสมบัติให้ไพนาสุริย์วงศ์ขึ้นครองกรุงลงกาชื่อว่าท้าวทศพิน กล่าวถึงอสุรผัดนึกสงสารท้าวคิริวงศ์จึงคิดจะไปขอให้ท้าวทศพินปล่อยตัว ด้วยคิดว่าตนกับท้าวทศพินเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็กน่าจะมีเมตตา เมื่อเข้าไปพบท้าวทศพินอยู่กับท้าวจักรวรรดิ ถูกท้าวจักรวรรดิขู่สังหารและไล่ออกไป อสุรผัดแค้นยิ่งนักจะสู้ก็เกรงว่าจะส่งผลกระทบไปยังมารดาและตายาย จึงกล้ำกลืนหนีหน้าออกมาไปปรึกษานางเบญกายและนางตรีชฎาว่าจะออกตามหาบิดามาสู้รบกับท้าวจักรวรรดิ นางเบญกายนางตรีชฎาเตือนว่าให้อดทนกล้ำกลืนรอให้ท้าวจักรวรรดิกลับเมืองมลิวันไปก่อนค่อยดำเนินการ อสุรผัดจึงสะกดใจรอคอย

ในองค์กร

ผู้นำองค์กรย่อมมีที่มาหลากหลาย

มีทั้งผู้นำที่ได้รับการคัดสรรแลไม่ผ่านกระบวนการคัดสรร

ผู้นำองค์กรจึงมีทั้งที่มีภาวะผู้นำแลไร้ภาวะผู้นำ

การทำงานกับผู้นำองค์กรจึงพึงระมัดระวัง

อาจเกิดเหตุอันไม่พึงประสงค์

มิเพียงผลงานไม่บังเกิด ผู้ปฏิบัติอาจพบความอับโชค กระทั่งภาวะวิบัติ

หากเป็นสนามรบอาจถึงขั้นสูญเสียชีวิต

ในองค์กร

พบผู้นำที่ไร้ภาวะผู้นำ

พึงอดทนอดกลั้นกล้ำกลืน รอโอกาสรอจังหวะ อย่ารีบเอาตนเข้าไปเสี่ยง

สะกดใจ รอคอย สงวนเนื้อสงวนตัวไว้รอผู้นำคนใหม่

ข้อพึงระวัง : อาจได้ผู้นำคนใหม่ที่เลวร้ายกว่าคนเดิม

หมายเหตุุ

ความอับโชค ภาษาปากว่า ซวย

ภาวะวิบัติ ภาษาปากว่า ฉิบหาย