วันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2563

เพื่อน (รามเกียรติ์ ๐๖๗)


ซึ่งท่านทั้งหลายดำริคิด
ก็จะได้ด้วยฤทธิ์อันแกล้วกล้า
แต่ลูกพระกาลผู้ศักดา
ได้ทูลอาสาพระจักรี
จะขอให้เพื่อนทำการ
ดูกำลังหาญกระบี่ศรี
อย่าให้เสียใจเสียที
ที่เป็นข้าบาทพระสี่กร

อสุรผัดออกตามหาหนุมานเพื่อให้ไปช่วยท้าวคิริวงศ์หรือพิเภกที่ถูกจองจำโดยท้าวทศพิน เมื่อพบหนุมานจึงพากันไปเข้าเฝ้าพระราม พระรามมอบหมายให้พระพรตพระสัตรุตนำทัพอันประกอบด้วยพญาไวยวงศาหรือสุครีพ พญาอนุชิตหรือหนุมาน พญาอินทรสุภาพหรือองคต ชมพูพาน และ สิบแปดมงกุฎ ร่วมออกศึก นิลพัทซึ่งเคยมีความผิดเมื่อครั้งจองถนนไปกรุงลงกา จึงขออาสาพระรามออกศึกเพื่อไถ่โทษ เมื่อพระพรตพระสัตรุตนำทัพไปถึงมหาสมุทรจะข้ามไปกรุงลงกา ต่างก็พากันอาสาที่จะช่วยทัพ บ้างก็จะหักยอดเขามาวางเป็นทางให้ข้ามไป บ้างก็อาสานอนทอดกายให้เดินผ่าน บ้างก็จะทดน้ำมหาสมุทรให้แห้ง บ้างก็จะเนรมิตกายให้ใหญ่เอามือช้อนกองทัพไปวาง นิลพัทจึงทูลขอว่าตนขอมาทำงานไถ่โทษยังไม่มีโอกาส ขอให้ตนได้ใช้โอกาสนี้ พระพรตพระสัตรุตจึงบัญชาว่าทุกคนที่เสนอตัวก็เชื่อว่าสามารถทำได้แต่จะให้โอกาสนิลพัท


เมื่อมีสถานการณ์วิกฤต ย่อมมีบุคคลสองประเภท
หนึ่งคือช่วงชิงโอกาสสร้างผลงาน
หนึ่งคือพาตนให้พ้นจากภาวะอันตรายให้ได้ก่อนผู้อื่น
บางคนเป็นทั้งสองประเภท

ในองค์กรย่อมมีเพื่อนร่วมงาน
เพื่อนย่อมต้องร่วมทุกข์ร่วมสุข
เพื่อนจึงไม่พึงหนีเพื่อนเมื่อยามมีภัย
เพื่อนจึงพึงให้โอกาสเพื่อนให้พ้นจากภัย

เพื่อนจึงไม่พึงเอาเปรียบชิงดีชิงเด่นจากเพื่อน
เพื่อนจึงไม่พึงแย่งความดีความชอบของเพื่อน
เพื่อนจึงพึงให้โอกาสเพื่อนได้สร้างผลงาน

ผู้บริหารที่มองผู้อื่นเป็นเพื่อนร่วมงาน
ย่อมแตกต่างกับ
ผู้บริหารที่มองผู้อื่นเป็นเพียงผู้ร่วมงาน


ไม่มีความคิดเห็น: