วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2562

เกียรติศักดิ์ (รามเกียรติ์ ๐๓๕)


ให้คิดทิฏฐิมานะนัก
ขุนยักษ์โกรธกริ้วนิ่วหน้า
เหม่เหม่ดูดู๋พรหมมา
หยาบช้าไม่เกรงกุมภัณฑ์
ตัวกูเป็นหลานทศพักตร์
พญายักษ์ปราบได้ทั้งสรวงสวรรค์
ไม่ควรจะทิ้งมาให้กัน
จะเอาพระขรรค์ไปไยมี

ยักษ์กุมภกาศบุตรนางสำมนักขากับชิวหา เมื่ออายุได้สิบเก้าปี คิดอยากได้เทพศาสตรามาเป็นอาวุธประจำกายจึงทูลลาบิดามารดาไปตั้งพิธีที่ชายป่าหิมพานต์ บังเกิดเสียงพสุธากัมปนาทไปถึงชั้นพรหม พระพรหมพิศดูรู้ว่ากุมภกาศจะขออาวุธจึงประทานพระขันต์แก้วสุรกานต์โยนลงไปให้ พระขรรค์ตกลงตรงหน้ากุมภกาศ กุมภกาศรู้สึกโกรธเห็นว่าตนเป็นถึงหลานทศกัณฐ์ พระพรหมกระทำการหยามหมิ่นศักดิ์ศรี โยนพระขรรค์มาให้ ไม่มาให้กับมือจึงไม่รับ นั่งบำเพ็ญพิธีต่อไป ฝ่ายพระลักษมณ์ออกหาอาหารเช้าไปพบพระขรรค์วางอยู่จึงหยิบมากวัดแกว่งลองดู เกิดแสงวามวาบเข้าตากุมภกาศ กุมภกาศลืมตาเห็นพระลักษมณ์ก็โกรธจึงสู้รบกัน พระลักษมณ์ฆ่ากุมภกาศได้จึงนำพระขรรค์ไปถวายพระราม พระรามเห็นว่าเป็นอาวุธของเทพจึงมอบให้พระลักษมณ์ไว้ใช้ประจำกาย

ในองค์กรหนึ่ง
ย่อมประกอบด้วยบุคคลหลายตำแหน่ง
ย่อมประกอบด้วยบุคคลหลายบทบาทหลายหน้าที่

แม้ตำแหน่งอาจแตกต่าง
แม้บทบาทหน้าที่อาจแตกต่าง
หากบุคคลย่อมมีเกียรติศักดิ์ในฐานะแห่งตน

เป็นผู้บริหาร
จึงมิพึงดูหมิ่นเหยียดหยามผู้อื่น แม้ผู้มีฐานะต้อยต่ำกว่า
จึงมิพึงดูหมิ่นเหยียดหยามผู้อื่น มิว่าจะเป็นวัจนภาษาแลอวัจนภาษา

ทุกผู้คนย่อมมีความสามารถแห่งตน
ทุกผู้คนย่อมมีความดีแห่งตน
ทุกผู้คนย่อมมีเกียรติศักดิ์ในฐานะแห่งตน



ไม่มีความคิดเห็น: