อันผู้มีสติปัญญานั้น ถ้าจะคิดสิ่งใด ก็กว้างขวางโอบอ้อมอารี
อุปมาเหมือนบุคคลกลืนแก้วอันเป็นทิพย์ไว้ในท้อง
ถ้าไปสถานที่ใดถึงเวลาค่ำมืดก็เล็ดลอดสว่างไปด้วยรัศมีแก้ว
ถ้าคิดการสิ่งใดก็รู้จักที่หนักที่เบาที่เสียที่ได้ ยักย้ายถ่ายเทมิให้ผู้ใดล่วงรู้ถึง
จึงจะนับได้ว่ามีสติปัญญาลึกซึ้ง
สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 19
เล่าปี่ร่วมลงนามในสัญญากับตังสินร่วมกำจัดโจโฉ แต่กริ่งเกรงโจโฉจะรู้ตัว
จึงเสแสร้งแกล้งถ่อมตัวไม่สนใจใยดีการงานทั้งปวง เอาแต่ขุดดินดายหญ้า
ปลูกผัก โจโฉได้ข่าวจึงเชิญเล่าปี่ไปสนทนาเพื่อหาพิรุธ ตอนหนึ่งโจโฉให้เล่าปี่
ยกชื่อผู้มีสติปัญญากว้างขวาง เล่าปี่ทำแกล้งโง่โยกโย้ ยกสารพัดชื่อว่าเป็น
ผู้มีสติปัญญาในแผ่นดิน โจโฉจึงเฉลยว่าผู้มีสติปัญญาต้องอยู่ที่เป็นคนรู้จักคิด
แต่หากจะเป็นคนสติปัญญาลึกซึ้งแล้วไม่เพียงแค่มีความคิด หากต้องสามารถ
ปิดบังความคิดไว้ได้ ทั้งแผ่นดินเห็นจะมีเพียงสองคนคือตนกับเล่าปี่เท่านั้น
ทำเอาเล่าปี่ถึงกับสะดุ้งตะเกียบพลัดหลุดจากมือ
คนฉลาด มักแสดงความคิดเห็น เพื่อให้คนรู้ว่าตนฉลาด
คนฉลาดที่แท้จริง เลือกที่จะแสดงความคิดเห็นเมื่อจำเป็น
คนฉลาดที่แท้จริง จึงแกล้งโง่เป็น
คนโง่ ย่อมไม่แสดงความคิดเห็น
คนโง่ที่ชอบแสดงความคิดเห็น จึงเป็น คนโง่ที่แท้จริง
คนโง่ที่ฉลาด รู้จักวางท่าให้ดูเป็นแกล้งโง่
คนโง่ที่ฉลาด ดูดีกว่า คนฉลาดที่โง่
ผู้บริหารที่เก่ง ฉลาด แต่ไม่รู้จักเก็บงำความฉลาดเสียบ้าง
จึงเป็นผู้ที่ผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ชอบ ด้วยรู้ไปเสียทุกอย่าง ฉลาดไปทุกเรื่อง คนอื่นกลายเป็นคนโง่หมด
ผู้บริหารที่เก่ง ฉลาด แต่ไม่รู้จักเก็บงำความฉลาดเสียบ้าง
จึงเป็นผู้ที่ผู้ใต้บังคับบัญชารู้เท่าทัน อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่
ผู้บริหารที่ผู้ใต้บังคับบัญชา มองไม่ออก จึงจะน่าเกรงขาม
แต่อย่าให้จับได้ละว่า โง่จริง ไม่ใช่แกล้งโง่
สามก๊ก อ่านสามจบ ยังคบได้
ผู้เขียนเองก็นับว่าอ่านสามก๊ กมามากกว่าสามจบ ทั้งฉบับ เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ฉบับ วรรณไว พัธโนทัย ฉบับ ยาขอบ และฉบับ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อ่านแล้วก็ลืม ลืมแล้วก็อ่าน อ่านทุกครั้งก็สนุกทุกครั้ง ไม่วิเคราะห์ไม่คิดมากให้เสียเวลา อ่านเอาสนุก อ่านเป็นนิยาย
ก็คนเขียนเขาเขียนเป็นนิยาย จะไปอ่านเอาสาระทำไมกัน หาก หลอกว้านจง ผู้ประพันธ์ รู้เข้าก็คงจะงุนงงเป็นยิ่งนักที่สามก๊กกลายเป็นตำราพิชัยสงคราม ตำราการบริหารเชิงยุทธศาสตร์ ไปได้
ผู้เขียนฟัง อาปา เล่าเรื่องสามก๊กให้ฟังมาตั้ งแต่เด็ก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องไหวพริบของตั วละครต่างๆในสามก๊ก ซึ่งก็เป็นเหตุทำให้ผู้เขียนสนใจอ่านสามก๊กเพื่อไปค้นหาข้อความที่อาปาเล่า ฉบับแรกที่อ่านก็เป็นฉบับ เจ้าพระยาพระคลัง(หน) เล่มใหญ่หนาที่บ้านอาโกว
มานึกได้วันหนึ่งว่า น่าจะลองอ่านสามก๊กใหม่อีกสักหน คราวนี้จะลองอ่านแบบ อ่านเอาเรื่อง อ่านตรงที่คนอื่นเขาไม่อ่านกัน เพื่อยืนยันว่าอ่านอีกกี่จบก็น่าจะ ยังคบได้
2 ความคิดเห็น:
สวัสดีครับ ได้ข้อขบคิดจากบทความดีมากเลยครับ
อ่านแล้วย้อนมองดูตัว ก็พบว่าเคยเป็นมาแล้วทั้งคนฉลาดและคนโง่ แทบทุกบรรทัดตามที่ท่านอธิบาย
ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ สติปัญญา และกาลเทศะ
แต่ช่วงที่อึดอัด และไม่สบายใจที่สุด
มักจะเป็นคราวที่ต้องแกล้งฉลาด หรือแกล้งโง่ ไม่เป็นตัวของตัวเองเลย
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น