สักวา กัญชาเสรี ไม่พิสุทธิ์
อ้างมนุษย์ ป่วยไข้ ใช้รักษา
กะหลี่แท้ เพียงเพื่อพี้ นันทนา
ภูมิใจ ไทยว่า ปุ๊นสุดปัง
สังคม ก่นด่า ก็ช่างเขา
ขอเรา ได้เสพ ได้สมหวัง
ผลประโยชน์ พวกพรรค รักกันจัง
ประชาชน ก็แค่…ไอ้งั่ง เท่านั้นเอย
เดิมก่อนยกประกาศเลิกกัญชาจากการเป็นยาเสพติดประเภท 5 นั้น ก็สามารถใช้กัญชาทางการแพทย์ได้อยู่แล้ว แต่จู่ ๆ ทั้งที่ยังไม่มีกฎหมายมาควบคุมโดยเฉพาะ กระทรวงสาธารณสุขกลับเร่งออกประกาศ นี่จะถือว่าเป็นความดีความชอบ ภูมิอกภูมิใจที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเสรีในการใช้กัญชากระนั้นหรือ
ปัญหาซ้ำซากที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ล้วนเกิดขึ้นหลังยกเลิกกัญชาเป็นยาเสพติด
น่าสงสารข้าราชการที่หลงเหยื่อ ซึ่งอนาคตจะตกเป็นเหยื่อเสียเอง และกลายไปเป็นแพะรับบาปแทนในที่สุด
น่าสงสารข้าราชการที่หลงเหยื่อ ซึ่งอนาคตจะตกเป็นเหยื่อเสียเอง และกลายไปเป็นแพะรับบาปแทนในที่สุด
น่าสงสารคนที่ต้องคอยแก้ตัว ข้าง ๆ คู ๆ รู้สึกอเนจอนาถ
น่าสงสารสังคมไทย ที่ตกเป็นเหยื่อของระบอบผลประโยชน์ที่หมุนเวียนดุจตกอยู่ในวังน้ำวน
หมายเหตุ
น่าสงสารสังคมไทย ที่ตกเป็นเหยื่อของระบอบผลประโยชน์ที่หมุนเวียนดุจตกอยู่ในวังน้ำวน
หมายเหตุ
1. กะหลี่ = ยอดอ่อนของต้นกัญชา
2. พี้ = การสูบกัญชา
3. ปุ๊น หรือ ปุ้น = กัญชา
4. “วังน้ำวนสายชลวนเชี่ยว เป็นเกลียวลึกลง
เกลียวน้ำวน วนวิ่งดิ่งตรง ลึกลงทุกที
สิ่งใดที่หลงในวัง วนอับจนจะพ้นหรือมี
สายชลเชี่ยววนทวี เหลือที่จะดันสายชล”
จากเนื้อเพลง วังน้ำวน คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน
เกลียวน้ำวน วนวิ่งดิ่งตรง ลึกลงทุกที
สิ่งใดที่หลงในวัง วนอับจนจะพ้นหรือมี
สายชลเชี่ยววนทวี เหลือที่จะดันสายชล”
จากเนื้อเพลง วังน้ำวน คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น