วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2565

จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด(ภารตะ-สยาม ? ผี พราหมณ์ พุทธ ?)


"ที่เราเคยเชื่อว่า มีแต่เรา เป็นของเราเท่านั้น อันที่จริงคนอื่นเขาก็มี"

ภารตะ-สยาม ? ผี พราหมณ์ พุทธ ?
คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง

มีคำกล่าวว่า ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการบริหาร แต่หากมีข้อมูลแล้วไม่รู้จักวิเคราะห์ไม่รู้จักใช้ ข้อมูลเหล่านั้นก็มีสภาพเท่ากับขยะ

หลายคนหวงแหนข้อมูลที่ตนถือไว้ เกรงว่าผู้อื่นจะได้ประโยชน์ กอดข้อมูลไว้กับตัว ไม่ได้ทำอะไรเป็นเรื่องเป็นราว ก็เท่ากับกอดขยะไว้ในอ้อมอก 

นอกจากข้อมูล ทัศนคติของบางองค์กรยังกอดทรัพยากรที่ไม่ได้ใช้ งบประมาณที่ไม่ได้ใช้ บุคลากรที่ไม่ได้ใช้ และอื่น ๆ สารพัดสารพันที่ไม่ได้ใช้ องค์กรจึงเต็มไปด้วยขยะ

ท้ายที่สุด ผู้อื่น องค์กรอื่น ก็ยังสามารถขวนขวายหาข้อมูลเหล่านั้นได้ หาแหล่งทรัพยากรใหม่ได้ หางบประมาณใหม่ได้ และหาบุคลากรใหม่ได้ แม้อาจจะใช้เวลาเพิ่มขึ้น แต่เมื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้ก่อน ภาพรวมจึงก้าวนำหน้าไป

เป็นผู้นำองค์กร ต้องรู้จักแบ่งปันเผื่อแผ่ อย่าหวงแหน อะไรที่เรามีผู้อื่นก็สามารถหาได้มีได้ อะไรที่เราไม่มี ผู้อื่นเขาอาจมี


ต้นเรื่อง

ภารตะ-สยาม ? ผี พราหมณ์ พุทธ ? เป็นหนังสือที่รวบรวมประเด็นทางศาสนาในประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับการเมือง เสนอว่าไทยนับถือศาสนาไทยมาก่อน แต่ถูกทำให้เชื่อว่าไทยนับถือศาสนาพุทธ และอาจเข้าใจผิดว่าไทยนับถือศาสนาพุทธมาตั้งยุคยังไม่มีชาติ แต่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์โบราณคดีชัดเจนว่าดินแดนแถบไทยและแถบอุษาคเนย์นับถือผีมาก่อน อ่านยากแต่ก็น่าอ่าน

Quote ที่น่าสนใจเพิ่มเติมจากหนังสือเล่มนี้

"สุดท้ายจึงขึ้นอยู่กับว่าตีความด้วยหัวใจแบบไหน เปิดกว้างและเมตตา หรือคับแคบและกีดกัน"

"การรบพุ่งกันจึงเป็น “พิธีกรรม” อย่างหนึ่งที่มีนัยมากกว่าการเอาชนะเข่นฆ่ากัน"



จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด









ไม่มีความคิดเห็น: