วันเสาร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2563

ทัดทาน (รามเกียรติ์ ๐๖๘)


โอ้ว่าทศพินเจ้าแม่เอ๋ย
ทรามเชยไม่ฟังแม่ว่า
เพราะวรณีสูรอสุรา
จึ่งมาเป็นเหตุดั่งนี้
ครั้งเมื่อพ่อเจ้าก็เชื่อคำ
นางสำมนักขายักษี
ไปลักองค์สีดาเทวี
แม่นี้ทูลทัดก็ขัดใจ

พระพรตพระสัตรุตนำทัพจากกรุงศรีอยุธยาไปปราบท้าวทศพินยังกรุงลงกาเพื่อช่วยเหลือท้าวคิริวงศ์ เมื่อยกทัพข้ามไปกรุงลงกาแล้วพระพรตให้ชมพูพานไปแจ้งข่าวให้ท้าวทศพินออกมาน้อมเกล้าพบพระพรตพระสัตรุต ท้าวทศพินไม่ยินยอมและยังบริภาษชมพูพานว่าเป็นเพียงเหงื่อไคลพระอิศวรที่ชุบขึ้นมาให้เป็นข้าของพาลี ชมพูพานโกรธกระโจนขึ้นถีบท้าวทศพินตกจากบัลลังก์จิกตบเศียรจนโลหิตหลั่งไหล แล้วกลับไปทูลพระพรตพระสัตรุต ฝ่ายท้าวทศพินทั้งเจ็บทั้งอายเข้าไปเล่าให้นางมณโฑผู้เป็นมารดาฟัง นางมณโฑจึงว่า บอกท้าวทศพินแล้วก็ไม่ฟังไปเชื่อวรณีสูร เหมือนเตือนทศกัณฑ์ก็ไม่ฟังไปเชื่อนางสำมนักขา จึงเกิดเหตุการณ์ลุกลามใหญ่โต

เมื่อจะแนะนำผู้อื่น เมื่อจะทักท้วงทัดทานผู้อื่น
ผู้แนะนำ ผู้ทัดทานย่อมต้องคิดแล้วคิดอีก
ผู้แนะนำ ผู้ทัดทานย่อมต้องทบทวนแล้วทบทวนอีก
ทบทวนทั้งเหตุผลแลอารมณ์ให้ถี่ถ้วน
จึงจะหาญกล้าแนะนำทักท้วงตักเตือนทัดทาน

อนึ่งผู้ใต้บังคับบัญชาที่หาญกล้าแนะนำทักท้วงตักเตือนทัดทานผู้บังคับบัญชา
ยิ่งต้องมากกว่าคิด ยิ่งต้องมากกว่าทบทวน 
เพราะอาจส่งผลกระทบต่องานแลผลกระทบต่อตนเอง

ฟังคำทัดทานจากผู้อื่นบ้าง
อย่ามองทุกคนที่ทัดทานเป็นศัตรู
จะไม่เหลือมิตรสหายผู้หวังดีอีกเลย




ไม่มีความคิดเห็น: