วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

คนพาล (รามเกียรติ์ ๐๓๑)


ตัวมันเป็นชาติเดียรฉาน
มาเที่ยวพาลด้วยใจทุจริต
ถ้ากูจะออกต่อฤทธิ์
ฆ่าชีวิตมันได้ก็ไม่ดี
แม้นมาตรว่าพ่ายแพ้มัน
จะอับอายเทวัญทุกราศี
คิดแล้วจึ่งตอบวาที
เรานี้ไม่มีฤทธิไกร

ทรพีเฝ้าวัดรอยเท้าทรพา เมื่อเห็นว่ากำลังสู้ได้จึงได้ท้าสู้กับทรพาผู้เป็นบิดา ทรพีไล่ขวิดฆ่าทรพาตาย หลังมีชัยแก่บิดาทรพีก็กำเริบใจเที่ยวละลานไล่ขวิดป่าเขาไปจนถึงหิมพานต์ ตะโกนท้าทายเทวดามาสู้รบด้วย เทพเจ้าหิมพานต์ดำริว่าหากจะสู้รบกับทรพี ถึงฆ่าทรพีได้ก็ไม่ได้อะไร พลาดพลั้งพ่ายแพ้ไปก็จะเป็นที่อับอายไปทั่ว จึงแกล้งกล่าวกับทรพีว่าตนไม่ฤทธิไกร ให้ทรพีไปท้ารบกับเทพที่เขาเบญจบรรพตเถิด เทพบุตรทั้งห้าแห่งเขาเบญจบรรพตก็บอกปัดให้ทรพีไปสู้กับเทพเจ้าแห่งสมุทร เทพสมุทรบอกให้ทรพีไปที่เขาไกรลาศ ทรพีจึงไปร้องท้าทายพระอิศวรที่เขาไกรลาศ พระอิศวรจึงไล่ให้ไปสู้กับพาลี แล้วสาบส่งว่าให้ทรพีไปถูกพาลีสังหารจากนั้นให้ไปเกิดเป็นมังกรกัณฐ์บุตรพญาขร และให้ตายด้วยศรพระราม

ในองค์กรย่อมมีคนดีแลคนพาล
คนพาลย่อมไร้เหตุผล เกเร เกะกะ
คนพาลชอบหาเรื่องทำให้องค์กรวุ่นวาย
คนพาลชอบหาเรื่องทะเลาะวิวาท
คนพาลก็แค่พวกชอบก่อกวน
คนพาลก็แค่พวกตัวป่วน

เป็นผู้บริหารจึงมิพึงพยายามหาเหตุผลกับคนพาล
เป็นผู้บริหารจึงมิพึงทะเลาะวิวาทกับคนพาล

ทะเลาะกับคนพาลมีแต่เปลืองตัว
หากพลาดพลั้งพ่ายแพ้ จะอับอาย มีแต่คนติฉินแดกดัน
เป็นผู้บริหารจึงมิพึงใส่ใจกับคนพาล

อนึ่งก่อนจะตัดสินว่าผู้ใดเป็นคนพาล พึงตรวจสอบแลหาเหตุผล
มิเช่นนั้น ตนนั่นแลคือคนพาล


ไม่มีความคิดเห็น: