"ทุกคนร้องขานรับดังสับสน “เข้าใจขอรับ” แต่ที่จริงล้วนสับสน"
ยงเจิ้ง ฮ่องเต้พิทักษ์ต้าชิง ตอน ฝ่ามรสุมสั่นคลอนราชบัลลังก์
เอ้อเยว่เหอ – เรืองชัย รักศรีอักษร
ในสังคมอำนาจนิยม ผู้คนจะให้ความสำคัญกับผู้มีอำนาจ
ผู้คนจะยึดเอาผู้มีอำนาจเป็นสรณะ
ผู้คนจะไม่เถียง ไม่โต้แย้ง กับผู้มีอำนาจ
แต่จะไปบ่นไปนินทาลับหลัง และแม้ว่าจะบ่นก่นด่าอย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่กล้าไม่ทำตามผู้มีอำนาจนั้น
เป็นผู้มีอำนาจอย่าพึงคิดว่าได้คนที่จงรักภักดี แท้จริงเพียงได้คนที่ปลิ้นปล้อนคนหนึ่ง
เป็นผู้มีอำนาจ อยากได้คนดีคนเก่ง ต้องให้โอกาสผู้อื่นได้คิด ได้แสดงความรู้ความสามารถ
แต่ผู้มีอำนาจส่วนใหญ่ ยังคงอยากได้ผู้ที่เสมือนจงรักภักดี
ต้นเรื่อง
ยงเจิ้ง ฮ่องเต้พิทักษ์ต้าชิง เป็นนวนิยายอิงประว้ติศาสตร์ที่ เอ้อเยว่เหอ เขียน และแปลโดย เรืองชัย รักศรีอักษร ต่อจากชุด คังซี จอมจักรพรรดิต้าชิง แบ่งเป็น 3 เล่มจบ คือ ตอนเส้นทางสู่บัลลังก์มังกร ตอนฝ่ามรสุมสั่นคลอนราชบัลลังก์ และตอนจอมราชันหรือทรราช ตอนที่สอง ฝ่ามรสุมสั่นคลอนราชบัลลังก์ เป็นช่วงที่ยงเจิ้งต้องเร่งรีบสร้างผลงานเพื่อแก้ไขปัญหาเรื้อรัง มีทั้งศึกภายนอก และศึกภายในที่ยังไม่สงบ การช่วงชิงบัลลังก์เป็นเรื่องยาก แต่การรักษษบัลลังก์เป็นเรื่องยากกว่า
Quote ที่น่าสนใจเพิ่มเติมจากหนังสือเล่มนี้
"การช่วงชิงบัลลังก์เป็นเรื่องยาก การรักษาบัลลังก์ยิ่งยากกว่า"
"ขื่อบนไม่ตรงขื่อล่างก็พลอยเบี้ยวไปด้วย"
"อยู่ใต้ชายคาเตี้ย จำต้องก้มศรีษะ"
"ภายนอกดูแข็งกร้าว ภายในย่อมมีจุดอ่อน"
"ถ้าเจิ้นเลือกใช้แต่คนสนิทเป็นเสนาบดี คนรุ่นหลังจะมองเจิ้นอย่างไร"
"คนอิ่มไม่นึกถึงคนหิวหรอก"
"ดีร้ายเป็นเหตุและผลต่อกันเปลี่ยนไปมาได้"
"เวลาที่สมใจมักลืมทางถอย"
"พอป่าใหญ่หน่อยก็มีนกทุกแบบ"
"ใต้ตะเกียง ย่อมมืด"
"ทำเรื่องใหญ่อย่ามัวใส่ใจเรื่องเล็ก"
"ไม่ว่าเรื่องอะไรล้วนขึ้นกับคน"
"ทุกเรื่องเป็นเหมือนการเดินหมาก"
"เข้าใจคนยาก อยากให้คนเข้าใจก็ยิ่งยาก"
"จิตใจเที่ยงตรงย่อมมองเห็นชัดเจนจิตใจชั่วร้ายดวงตาย่อมขุ่นมัว"
"โรคที่ผิวหนังไม่ต้องวิตก แต่โรคร้ายที่แอบแฝงอยู่ จะทิ้งไว้ไม่ได้"
"สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ วีรบุรุษก็สร้างสถานการณ์ได้"
จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น