วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2563

จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด (ผีเสื้อสยองขวัญ)


"ผู้ที่โป้ปดได้เก่งกาจนั้น
จำเป็นต้องปดตัวเองก่อนจึงปดผู้อื่นให้เชื่อได้"

ผีเสื้อสยองขวัญ
โก้วเล้ง-ว. ณ เมืองลุง

คนโกหก คนพูดเท็จ จะอย่างไรก็มีพิรุธ แม้พยายามควบคุมสีหน้าท่าทางให้น่าเชื่อถือปานใด ความกังวล ความเครียด จะทำให้เกิดพฤติกรรมพิรุธ ระบบประสาทอัตโนมัติถูกกระตุ้น ชีพจรแลความดันโลหิต ระบบสูบฉีดโลหิตเปลี่ยนแปลง แม้หลุดรอดสายตามนุษย์ แต่ยังอาจถูกจับได้ด้วยเครื่องจับเท็จ

หากจะโกหกให้แนบเนียนจับไม่ได้ จึงต้องเริ่มต้นที่ทำให้ตนเองเชื่อในคำโกหกนั้นว่าเป็นเรื่องจริงเสียก่อน เมื่อตนเองเชื่อว่าเรื่องเหล่านั้นเป็นเรื่องจริง ก็จะมั่นใจในการพูดความจริง เหมือนพ่อแม่ปู่ย่าตายายหลอกให้เรากลัวผีได้ ก็เพราะพ่อแม่ปู่ย่าตายายเชื่อว่าผีมีจริง เรื่องกฤษฎาภินิหารของบุคคลหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ก็เกิดจากผู้กล่าวอ้างเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงเหตุการณ์จริงนั่นเอง

ความยากจึงอยู่ที่ จะโกหกตนเองอย่างไร ให้ตนเองเชื่อ เมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นเรื่องโกหกหลอกลวง

หลายคนใช้วิธีสร้างตรรกะ เพื่อให้ตนเองเชื่อ เช่น กำหนดว่า การไปไหนกับเพื่อนไม่ใช่เรื่องผิด กิ๊กมีค่าเท่ากับเพื่อน ดังนั้นการไปกับกิ๊กย่อมไม่ใช่เรื่องผิด ในที่สุดตนเองก็เชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าไม่เคยมีกิ๊กไม่เคยไปไหนกับกิ๊ก มีแต่เพื่อน ทุกครั้งที่ไปนั้นไปกับเพื่อน อย่างนี้ย่อมเล่าเรื่องไปกับเพื่อนได้อย่างหน้าชื่นตาบานไร้พิรุธ

ความสำเร็จของการโกหกตัวเองจะบังเกิดได้จึงต้องหมั่นโกหกบ่อย ๆ โกหกซ้ำซากจนกระทั่งไม่รู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างเรื่องจริงกับเรื่องเท็จ

คนโกหกที่เก่งกาจกระทั่งตนเองก็เชื่อในคำโกหกนั้น ย่อมมีความสามารถในการโกหกใครก็ได้ในโลกนี้

คนที่เชื่อบุคคลเช่นนั้น เป็นคนที่มักเชื่อะไรแบบไม่พิเคราะห์เหตุแลผล เมื่อเชื่อแล้วก็เชื่ออย่างไม่ลืมหูลืมตา ไม่ใส่ใจความจริงหรือความเท็จ 

คนที่เชื่ออย่างไม่ลืมหูลืมตา จึงเป็นคนโง่ โง่ที่เชื่ออย่างงมงาย


ต้นเรื่อง

ผีเสื้อสยองขวัญเป็นนิยายจีนที่ปกระบุว่าเป็นยอดนวนิยายจีนอมตะของโก้วเล้ง แปลโดย ว. ณ เมืองลุง หากแต่มีผู้วิเคราะห์ว่า ข้อเท็จจริงแล้วเรื่องนี้น่าจะประพันธ์โดย อึ้งเอ็ง เป็นนิยายประเภทฆาตกรรมนักสืบ ผนวกความสยองขวัญ

โต้วเชี่ยเทียนติดตามค้นหาผีเสื้อดูดเลือด คิบฮ้วยง้อ ไปจนถึงห้องลับของซีซังฮ้อ ซีซังฮ้อสอบถามโต้วเชี่ยเทียนว่าสืบเสาะความลับของตนได้อย่างไรและตั้งแต่เมื่อไร โต้วเชี่ยเทียนยืนยันว่าสามารถจับพิรุธได้ตั้งแต่แรก ซีซังฮ้อไม่ยินยอมเชื่อกลับบอกว่า ดูจากสีหน้าของโต้วเชี่ยเทียนแล้วความสามารถในการพูดปดยังไม่เชี่ยวชาญพอ "ผู้ที่โป้ปดได้เก่งกาจนั้น จำเป็นต้องปดตัวเองก่อนจึงปดผู้อื่นให้เชื่อได้"


หมายเหตุ

กาลามสูตร หลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธเจ้าทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงก่อน มีอยู่ 10 ประการ คือ

1.อย่าเชื่อด้วยการฟังตามกันมา
2.อย่าเชื่อด้วยการถือสืบ ๆ กันมา
3.อย่าเชื่อด้วยการเล่าลือ
4.อย่าเชื่อด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์
5.อย่าเชื่อเพราะตรรกะ (การคิดเอาเอง)
6.อย่าเชื่อเพราะการอนุมาน (คาดคะเน)
7.อย่าเชื่อด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล
8.อย่าเชื่อเพราะเข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว
9.อย่าเชื่อเพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้
10.อย่าเชื่อเพราะนับถือว่าท่านสมณะนี้ เป็นครูของเรา


จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด

 



ไม่มีความคิดเห็น: