"ความขัดแย้งชนิดหนึ่ง อาจลุกลามวิวัฒนาการ
แปรเปลี่ยนไปเป็นความขัดแย้งอีกชนิดหนึ่ง"
โรฮิงญา รัฐ ชาติพันธุ์ ประวัติศาสตร์และ ความขัดแย้ง
ผศ. ดุลยภาค ปรีชารัชช
ความขัดแย้งจึงเป็นอารมณ์ และเป็นอารมณ์ที่อยู่เหนือเหตุผล
ความขัดแย้งจึงเป็นสิ่งที่เมื่อเริ่มย่อมลุกลาม
คนย่อมอยากชนะ ไม่มีผู้ใดอยากเป็นผู้แพ้
ความอยากชนะไม่อยากแพ้เป็นอารมณ์ที่ก่อเกิดความขัดแย้ง
เมื่อมีความขัดแยังในองค์กรจึงพึงรีบระงับ มิพักว่าจะเป็นความขัดแย้งใด จะเป็นประเด็นเล็กหรือประเด็นใหญ่ จะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว หากปล่อยทิ้งไว้อาจแปรเปลี่ยนลุกลาม
ผู้มีหน้าที่ระงับความขัดแย้งย่อมต้องอาศัยความร่วมมือของคู่ขัดแย้ง
ชนะทั้งสองฝ่ายย่อมไม่อาจเกิดขึ้นได้จริงเสมอไป
แพ้ทั้งสองฝ่าย ดีกว่ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะ
คู่ขัดแย้งที่มีอำนาจเหนือกว่าเป็นผู้เริ่มระงับความขัดแย้ง ย่อมง่ายกว่า
ต้นเรื่อง
โรฮิงญา รัฐ ชาติพันธุ์ ประวัติศาสตร์และ ความขัดแย้ง เขียนโดย ผศ.ดุลยภาค ปรีชารัชช ผู้ที่คลุกคลีกับประเด็นพม่าใหม่(เมียนมาร์)อยู่ตลอดระยะเวลาหลายปี ทำให้รวบรวมประเด็นชนกลุ่มน้อยกลุ่มนี้ได้อย่างครอบคลุม ถูกต้อง และเป็นกลางที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่มาที่ไปของชาวโรฮิงญา ประวัติศาสตร์ความขัดแย้งระหว่างชาวโรฮิงญากับชาวพม่าแท้ จนนำไปสู่เหตุการณ์นองเลือด และท้ายที่สุดนำมาซึ่งการไร้ชาติ ไร้รัฐ และไร้แผ่นดินของชาวโรฮิงญา (จากโฆษณาหนังสือ สำนักพิมพ์มติชน)
จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น