วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2564

จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด(โรฮิงญา รัฐ ชาติพันธุ์ ประวัติศาสตร์ และ ความขัดแย้ง)


"ความขัดแย้งชนิดหนึ่ง อาจลุกลามวิวัฒนาการ
แปรเปลี่ยนไปเป็นความขัดแย้งอีกชนิดหนึ่ง"

โรฮิงญา รัฐ ชาติพันธุ์ ประวัติศาสตร์และ ความขัดแย้ง
ผศ. ดุลยภาค ปรีชารัชช

ผู้คนที่มีความขัดแย้ง 
แม้เริ่มด้วยเหตุผล แต่ท้ายสุดย่อมไม่ใช้เหตุผล
ความขัดแย้งจึงเป็นอารมณ์ และเป็นอารมณ์ที่อยู่เหนือเหตุผล
ความขัดแย้งจึงเป็นสิ่งที่เมื่อเริ่มย่อมลุกลาม

คนย่อมอยากชนะ ไม่มีผู้ใดอยากเป็นผู้แพ้
ความอยากชนะไม่อยากแพ้เป็นอารมณ์ที่ก่อเกิดความขัดแย้ง

เมื่อมีความขัดแยังในองค์กรจึงพึงรีบระงับ มิพักว่าจะเป็นความขัดแย้งใด จะเป็นประเด็นเล็กหรือประเด็นใหญ่ จะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว หากปล่อยทิ้งไว้อาจแปรเปลี่ยนลุกลาม

ผู้มีหน้าที่ระงับความขัดแย้งย่อมต้องอาศัยความร่วมมือของคู่ขัดแย้ง
ชนะทั้งสองฝ่ายย่อมไม่อาจเกิดขึ้นได้จริงเสมอไป
แพ้ทั้งสองฝ่าย ดีกว่ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะ

คู่ขัดแย้งที่มีอำนาจเหนือกว่าเป็นผู้เริ่มระงับความขัดแย้ง ย่อมง่ายกว่า


ต้นเรื่อง

โรฮิงญา รัฐ ชาติพันธุ์ ประวัติศาสตร์และ ความขัดแย้ง เขียนโดย ผศ.ดุลยภาค ปรีชารัชช ผู้ที่คลุกคลีกับประเด็นพม่าใหม่(เมียนมาร์)อยู่ตลอดระยะเวลาหลายปี ทำให้รวบรวมประเด็นชนกลุ่มน้อยกลุ่มนี้ได้อย่างครอบคลุม ถูกต้อง และเป็นกลางที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่มาที่ไปของชาวโรฮิงญา ประวัติศาสตร์ความขัดแย้งระหว่างชาวโรฮิงญากับชาวพม่าแท้ จนนำไปสู่เหตุการณ์นองเลือด และท้ายที่สุดนำมาซึ่งการไร้ชาติ ไร้รัฐ และไร้แผ่นดินของชาวโรฮิงญา (จากโฆษณาหนังสือ สำนักพิมพ์มติชน)


จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด











ไม่มีความคิดเห็น: