วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2562

พวกพ้อง (รามเกียรติ์ ๐๔๔)


ดูดู๋ลูกพระอาทิตย์
เหตุใดมืดมิดโมหันธ์
ซึ่งว่าไม่มีใครใช้มัน
คำนั้นเห็นจริงหรือว่าไร
จึ่งไม่ซักไซ้ไต่ถาม
เอาความข้อนี้ให้ได้
หรือลูกสหายร่วมใจ
จึ่งแก้ไขเลือกว่าเอาแต่ดี

หลังกรุงลงกาถูกหนุมานวางเพลิง ทศกัณฑ์เชิญเหล่าเทวดามาเนรมิตกรุงลงกาขึ้นใหม่ ต่อมาทศกัณฑ์ฝันร้าย พิเภกโหรหลวงผู้เป็นอนุชาทำนายว่าเป็นคราวเคราะห์ที่ทศกัณฑ์จะถูกพระรามปราบจนถึงแก่ชีวิตทางสะเดาะเคราะห์คือให้ส่งนางสีดาคืนแก่พระรามไป ทศกัณฑ์โกรธยึดทรัพย์สินของพิเภกแล้วไล่พิเภกออกจากเมือง พิเภกดั้นด้นไปขออาศัยอยู่กับพระราม สาบานเป็นเพื่อนกับสุครีพ พระรามถามถึงกองกำลังยักษ์ของทศกัณฑ์จะเทียบกับกองกำลังวานรของพระรามได้หรือไม่ พิเภกทูลว่าไม่เคยเห็นกำลังฝีมือของเหล่าพลวานร พระรามจึงให้วานรทั้งหลายแสดงฝีมือ บ้างทุ่มภูเขาไปถึงกรุงลงกา ทศกัณฑ์จึงให้ยักษ์ชื่อสุกรสารมาสืบข่าวในทัพพระราม สุกรสารถูกจับได้โดนสักหน้าส่งกลับไปหาทศกัณฑ์ ส่งข่าวว่าพิเภกหนีมาอยู่กับพระราม ทศกัณฑ์แปลงกายเป็นฤาษีกาลสิทธโคดมเข้าไปในทัพพระรามหวังพูดให้พระรามไล่พิเภกออกจากทัพ และหวังพูดให้พระรามยอมเลิกทัพและยอมเสียนางสีดาให้ทศกัณฑ์ไป แต่ไม่ได้ผลจึงกลับมายังกรุงลงกาวางแผนส่งนางเบญกายผู้เป็นธิดาของพิเภกแปลงเป็นนางสีดาตายลอยน้ำไปยังพลับพลาพระรามหวังให้พระรามเข้าใจผิดว่านางสีดาสิ้นชีพจะได้ยกทัพกลับ หนุมานเสนอให้เผาสีดาปลอม นางเบญกายทนร้อนไม่ได้แปลงกลับเป็นร่างเดิมถูกหนุมานจับไว้ได้ พระรามให้สุครีพสอบสวน สุครีพสอบได้ความว่านางเบญกายเป็นธิดาพิเภกผู้เป็นเพื่อนร่วมสาบาน จึงรีบสรุปความตามที่นางเบญจกายบอกว่า ไม่มีใครสั่งการมาแต่ได้ข่าวว่าพิเภกถูกพระรามสังหารจึงแปลงกายเป็นนางสีดาเข้ามาสืบข่าวบิดาเท่านั้น เมื่อไปรายงานพระราม พระรามได้ฟังก็โกรธต่อว่าสุครีพว่าเห็นแก่ลูกเพื่อน สืบไม่ได้ข้อเท็จจริงที่ควรจะเป็นให้ไปสืบสวนใหม่

ในองค์กร
ผู้ร่วมงานอาจมีเห็นแตกต่าง
ผู้ร่วมงานอาจแบ่งเป็นหลายกลุ่มหลายพวก
ทุกผู้คนล้วนมีพวกพ้อง
ผู้บริหารก็มีพวกพ้อง

หากแต่ผู้บริหารมิควรเห็นแก่เฉพาะพวกพ้องของตน
ผู้บริหารพึงระลึกว่า ทุกคนในองค์กรคือพรรคพวกเดียวกัน
หากเห็นแก่พวกพ้องเพียงเพื่อผลประโยชน์แห่งตน
ย่อมหมายถึงสิ้นศรัทธา

อย่าเห็นแก่ตนและพวกพ้อง



ไม่มีความคิดเห็น: