ใจเย็นไว้โยม

หลังจากที่ผู้เขียนเสนอแนวคิดการแก้ไขปัญหาสุขภาพของประชาชนจะสำเร็จได้ จากสิ่งที่ผู้เขียนเรียกว่า P R I S S ประกอบด้วย การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง(Participatory) ที่มีค่านิยมร่วมในการมุ่งผลสัมฤทธิ์(Result Based Management Value) และการบูรณาการ (Integration) กระบวนการบริหาร วิชาการ ตลอดจนเทคโนโลยีสารสนเทศ บนพื้นฐานของการจัดการระบบที่ดี(Systematic Management) และสอดคลองกับวิถีชีวิตของชุมชน(Style of Life) 

เมื่อได้ศึกษาปัจจัยความสำเร็จของหลายกิจกรรมแล้วก็ยิ่งยืนยัน P R I S S ว่าจะเป็นแนวทางสำคัญสู่ความสำเร็จของการแก้ไขปัญหาสุขภาพของประชาชน หากแต่ต้องเพิ่มเติมประเด็นสำคัญคือ การทํา P R I S S จะตองอาศัยความต่อเนื่องของเวลา(Continuity) ดังสำนวนที่ว่า Rome was not Build in a day. กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว

ผู้บริหารจำนวนไม่น้อยโดยเฉพาะ นักการมือง (รวมผู้ที่ต้องการเอาใจนักการเมือง) มีเวลาจํากัดจึงต้องเร่งรีบ เมื่อเร่งรีบจึงไม่สามารถใช้กระบวนการ P R I S S ได้ มักมีแนวทางออกมาในรูปของ นโยบายและกำหนดทฤษฎีบท (ซึ่งไม่ต้องพิสูจน์) ไว้ว่า นโยบายอยู่เหนือเหตุผล ผู้ใต้บังคับบัญชาไม่จําเป็นต้องคิด เพียงแค่ทําตามเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว (คงจํากฎ 2 ข้อได้กระมัง ข้อ 1 ผู้บังคับบัญชาถูกต้องเสมอ ข้อ 2 หากมีข้อสงสัยใหักลับไปดูข้อ 1) 

ผู้บริหารเหล่านั้นคิดว่าตนมีเวลาที่จํากัดต้องรีบแสดงผลงาน จึงประกาศนโยบายระยะสั้น ไม่กล้าประกาศนโยบายระยะยาว เพราะไม่สามารถรอดูผลงาน หรือไม่สามารถกลับมาเห็นผลของงานด้วยความภาคภูมิใจ จึงเร่งรีบกำหนดนโยบาย หลายนโยบายกลายเป็นปัจจัยแห่งความล้มเหลวของเนื้องาน หากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไดัระดมสมอง ระดมสรรพกำลังทรัพยากร แก้ไขปัญหาเป็นระบบ สอดคล้องกับ วิถีชีวิตของสังคม บนความต่อเนื่องของเวลา งานก็จะสำเร็จอย่างงดงาม

การแก้ไขปัญหาหลายเรื่อง เป็นเรื่องทื่ต้องการความต่อเนื่องของเวลา ใจร้อนไม่ได้ พวกใจร้อนจึงมักเป็นพวกต้องการ Presentation เท่านั้นเอง

หากเราเลี้ยงไก่ เพื่อคาดหวังกินไข่ไก่ ก็ต้องรอประคบประหงมเลี้ยงดูด้วยความเอาใจใส่ ใช้เวลาและความอดทน

เพิ่งได้รับลูกเจี๊ยบเมื่อวานนี้เอง แต่วันนี้มาทวงไข่ไก่แล้ว หากเขาสามารถนาไข่มาให้ท่านได้ก็คงเป็นไข่เก่าจากตู้เย็น

รับไข่แล้วอย่าเพิ่งดีใจ ว่ามีผู้ใต้บังคับบัญชาที่เก่งกาจ คลำๆดูหน่อยว่า อุ่นหรือเย็น แง้มดูสักนิด อย่ามัวแต่ชื่นชมในนโยบายของตนเอง อาจเป็น ไข่เป็ดเก่าๆ จาก ลูกไก่ ก็เป็นได้ (เอ แสดงว่าผู้ใต้บังคับบัญชาก็รู้จักคิดเหมือนกัน......) 

หมายเหตุ 1 ผู้เขียนใคร่เตือนท่านที่ไม่ค่อยชอบคิดไว้ว่า สมองมีไว้คิด หากไม่คิดก็ไม่มีความจำเป็นต้องมีสมอง ตามทฤษฎีวิวัฒนาการ ส่วนไหนของร่างกายที่ไม่ค่อยได้ใช้ ก็จะค่อยๆเล็กลงฝ่อลง ที่สําคัญ มันฝ่อทั้งเผ่าพันธุ์ ไมใช่ฝ่อลงแต่ท่านคนเดียว อย่าทำตัวเป็นผู้ทําลายล้างเผ่าพันธุ์ ด้วยการ

1. ไม่คิด ทําตามแนวคิดของผู้อื่นเพียงอย่างเดียว
2. คิดคนเดียว ไม่ให้โอกาสคนอื่นคิด

หมายเหต 2 แนวคิดเรื่องเลี้ยงไก่ ต้องขอขอบคุณ ท่านสาธารณสุขอำเภอ ท่านหนึ่ง(ไม่เปิดเผยนาม) ที่มีความสามาถในการเลี้ยงลูกเจี๊ยบวันเดียวได้ไข่ไก่

โพสต์ครั้งแรก 15-06-2552