เอ๋ยสักวา ๔๗
สักวา ลุงวิศวะ กะ ม.๔
ไร้ศักดิ์ศรี หนึ่งโดนคดี หนึ่งอาสัญ
กูพวกมาก มีกำลัง เป็นสำคัญ
ไม่หวาดหวั่น ถึงพวกน้อย….กูมีปืน
แสนอนาถ สังคมไทย ใจเลือกข้าง
ให้เหยียบบ้าง ยิงบ้าง ต่างข่มขืน
ช่างหยิบยก หาเหตุ มากลมกลืน
รู้หยิบยื่น ให้อภัย บ้างไหมเอย
หมายเหตุ
จากข่าวเมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
สังคมไทยเกิดอาการ Drama หนัก แยกออกเป็นสองฝ่าย บ้างก็เห็นใจวิศวกร บ้างก็เห็นใจวัยรุ่น ม.๔ เมื่อเห็นใจฝ่ายหนึ่ง ก็จะโจมตีอีกฝ่ายหนึ่งอย่างรุนแรง เหตุการณ์นี้ไม่มีใครได้อะไรดีเลย ฝ่ายหนึ่งตายไป ก็ตายแบบ ไร้ศักดิ์ศรี ฝ่ายหนึ่งต้องคดีที่ ไร้ศักดิ์ศรี ที่ไม่รู้ว่าจะมีผลออกมาอย่างไร คนที่เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่ายก็เสียหาย เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าทุกคนรู้จัก ให้อภัย
ลุงวิศวะให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนพาครอบครัวมาบางแสนก่อนกลับแวะกินข้าวและซื้อของที่สะพานปลาอ่างศิลาซึ่งรถของตนจอดอยู่ด้านในและได้มีรถตู้มาจอดปิดท้าย ตนจึงออกไม่ได้จึงให้ภรรยาออกมาบอกให้รถตู้ช่วยขยับหน่อยเพราะรถของตนจะออก และเกิดมีปากเสียงกัน หลังจากนั้นก็ขับรถออกมา จากสะพานปลาอ่างศิลารถตู้คันดังกล่าวก็ขับตามมา เมื่อเห็นท่าไม่ดี และสังเกตเห็นรถกู้ภัยจอดอยู่ตรงจุดเกิดเหตุบริเวณแยกครกใหญ่ อ่างศิลา ซึ่งไม่ไกลจากสะพานปลาอ่างศิลา จึงจอดรถเพื่อจะลงไปขอความช่วยเหลือ ยังไม่ทันลงจากรถกลุ่มวัยรุ่นก็ลงมาล้อมรถของตน และพยายามเปิดประตู ตนจึงถ่ายรูปไว้ หลังจากนั้นกลุ่มวัยรุ่นก็เข้ามาชกหน้า ตนจึงคว้าปืนที่อยู่ในกระเป๋าออกมายิงไป ๑ นัดเพื่อป้องกันตัว หลังเกิดเหตุได้มีตำรวจจราจรมาถึงที่เกิดเหตุ และได้ควบคุมตัวไว้พร้อมอาวุธปืนแต่กลุ่มวัยรุ่นก็ยังเข้ามารุมทำร้าย ซึ่งถ้าหากตนไม่ใช้อาวุธเพื่อป้องกันตัวก็อาจเป็นครอบครัวของตนที่ถูกกระทำเสียเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น