"คนเดินหมากงุนงง คนดูหมากแจ่มแจ้ง"
ยอดกุนซือทะลุมิติ 5
มู่อี้-กระดิ่งหยก
หมากรุกเป็นเกมการแข่งขัน ที่ผู้เล่นต่างคาดหวังเอาชนะฝ่ายตรงข้าม เมื่อหวังเอาชนะ จึงต้องใช้กลยุทธทุกอย่างที่มี จะอย่างไร ขอบเขตของหมากรุกก็อยู่แค่บนกระดานหมากรุก แม้ต่อสู้รุนแรงแค่ไหนก็อยู่บนกระดานหมากรุก
คนเล่นหมากรุก มองเห็นแค่บนกระดานหมากรุก จิตใจจดจ่อกับเกมที่อยู่ตรงหน้า มองหมากของตนและมองหมากฝ่ายตรงข้าม ไม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอื่นที่อยู่นอกกระดาน
ต่างจากคนดูหมากรุก ที่เห็นทั้งสองฝ่ายอย่างแจ่มแจ้ง เพียงแต่มิอาจส่งสัญญาณเตือนผู้ใด ด้วยอาจเป็นคุณเป็นโทษต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
การทำงานไม่ต่างกับการเล่นหมากรุก ที่ผู้ทำงานย่อมจดจ่ออยู่แต่ในกรอบของงาน เดินหน้ามุ่งทำไป ไม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอื่นที่อยู่นอกเหนืองาน
แต่การทำงานสามารถเตือนได้ แนะนำได้ เพื่อผลสัมฤทธิ์ของงาน การกำหนดให้มีผู้ตรวจสอบประเมินงานเป็นระยะ จึงเป็นสิ่งจำเป็น
ต้นเรื่อง
ยอดกุนซือทะลุมิติเป็นนิยายย้อนยุค แนวสืบสวนสอบสวน โดยตัวเอกของเรื่องเป็นแพทย์นิติเวชในทีมตำรวจฝ่ายอาชญากรรมในสมัยปัจจุบัน จู่ ๆ ทะลุมิติย้อนยุคกลับไปอยู่ในร่างของ เมิ่งเทียนฉู่ ในสมัยราชวงศ์หมิง เมิ่งเทียนฉู่คนเดิมเป็นคนที่ไม่เอาถ่าน ใช้ชีวิตเสเพลแต่เมิ่งเทียนฉู่คนใหม่ กลับมีความสามารถในการคลี่คลายคดีและชันสูตรพลิกศพเป็นเลิศ ต่อมาได้รับตำแหน่งกุนซือฝ่ายกฎหมายและลงทัณฑ์ ไขคดีในยุคอดีตหลายคดีโดยอาศัยความรู้นิติเวชสมัยใหม่
ยอดกุนซือทะลุมิติ แต่งโดยมู่อี้ ฉบับที่ 5 แปลโดยกระดิ่งหยก
จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น