วันพุธที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2564

จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด(ยอดกุนซือทะลุมิติ 7)


"คนที่ยืนดูอยู่เฉย ๆ มีถมไป"

ยอดกุนซือทะลุมิติ 7
มู่อี้ - กระดิ่งหยก

งาน แบ่งออกได้เป็นสองประเภท
หนึ่งคือ งานส่วนตัว
หนึ่งคือ งานส่วนรวม

งานส่วนตัว เจ้าตัวต้องเป็นผู้รับผิดชอบงานของตน ผู้อื่นมิอาจก้าวก่ายได้
งานส่วนรวม คืองานที่ทุกคนในองค์กรต้องร่วมรับผิดชอบ ให้บังเกิดผลสัมฤทธิ์ตามวัตถุประสงค์ขององค์กร

หลายคนสับสนปนเป
บ้างเอางานส่วนตัวมาเป็นงานส่วนรวม ให้ผู้คนในองค์กรช่วยเหลือให้ตนได้รับผลประโยชน์
บ้างเอางานส่วนรวมมาเป็นงานส่วนตัว เกรงว่าผู้อื่นจะแบ่งปันความดีความชอบ ไม่ชอบรับฟังความเห็นผู้อื่น แต่หากเมื่อเกิดผลเสียกลับโทษว่าเป็นงานส่วนรวม
บ้างไม่ช่วยเหลืองานส่วนรวม ธุระไม่ใช่ เอาเปรียบสังคม

องค์กรจึงพึงแยกแยะระบบงานส่วนตัวส่วนรวมให้ชัดเจน
งานส่วนรวมต้อง ร่วมคิด ร่วมวิเคราะห์ ร่วมสังเคราะห์ ร่วมวางแผน ร่วมรับผลประโยชน์

คนที่ชอบเอางานส่วนตัวมาเป็นงานส่วนรวม มักเป็นหัวหน้างาน
คนที่ชอบเอางานส่วนรวมมาเป็นงานส่วนตัว มักเป็นคนเก่ง
คนที่ไม่ชอบช่วยเหลืองานส่วนรวม มักเป็นคนทำท่าดูดี กรีดกรายไปมา

ต้นเรื่อง

ยอดกุนซือทะลุมิติเป็นนิยายย้อนยุค แนวสืบสวนสอบสวน โดยตัวเอกของเรื่องเป็นแพทย์นิติเวชในทีมตำรวจฝ่ายอาชญากรรมในสมัยปัจจุบัน จู่ ๆ ทะลุมิติย้อนยุคกลับไปอยู่ในร่างของ เมิ่งเทียนฉู่ ในสมัยราชวงศ์หมิง เมิ่งเทียนฉู่คนเดิมเป็นคนที่ไม่เอาถ่าน ใช้ชีวิตเสเพลแต่เมิ่งเทียนฉู่คนใหม่ กลับมีความสามารถในการคลี่คลายคดีและชันสูตรพลิกศพเป็นเลิศ ต่อมาได้รับตำแหน่งกุนซือฝ่ายกฎหมายและลงทัณฑ์ ไขคดีในยุคอดีตหลายคดีโดยอาศัยความรู้นิติเวชสมัยใหม่

ยอดกุนซือทะลุมิติ แต่งโดยมู่อี้ ฉบับที่  7 แปลโดยกระดิ่งหยก 

Quote ที่น่าสนใจเพิ่มเติมจากหนังสือเล่มนี้

"ตั้งใจจะหยิบเรื่องเล็กมาพูดเรื่องใหญ่นะสิ"

"เด็กน้อยต้องรู้จักเติบโต ถ้าท่านอย่กให้เขาเดินได้ด้วยตัวเอง ก็ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะหกล้ม"

"ต่างคนต่างมีความคิดของตัวเอง"

"เราไม่ต้องคำนึงความรู้สึกคนอื่นให้มากนัก
"

หมายเหตุ
จินตนาการจากเพื่อนเฟสบุ้คบางคน

@วนิดา กีรติกรณ์สุภัค
คนยืนเฉย ๆ และคนเมินไม่มอง มีทั้งสองแบบ ต้องทำใจถ้าเป็นลูกน้อง อย่าปล่อยนานไป เราจะกลุ้ม


จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด




ไม่มีความคิดเห็น: