วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2562

แพ้แล้วแพ้เลย (รามเกียรติ์ ๐๔๖)


ธรรมดาเกิดมาเป็นบุรุษ
สุดแต่ปัญญานั้นเป็นใหญ่
อันการศึกเสียทีแลมีชัย
มิใช่แต่องค์พระน้องรัก
ตัวเจ้าก็ทรงอานุภาพ
ปราบได้ทั่วไปทั้งไตรจักร
อันศึกเพียงนี้ไม่หนักนัก
จงคิดหักเอาชัยแก่ไพรี

ทศกัณฑ์บังคับแกมขอร้องให้กุมภกรรณผู้เป็นน้องชายออกรบกับพระราม พระรามให้สุครีพออกรบกับกุมภกรรณ สุครีพโดนกลลวงของกุมภกรรณท้าทายให้ไปถอนต้นรังใหญ่ในอุดรทวีป สุครีพเหาะไปถอนต้นรังตามคำท้าทายแล้วแบกต้นรังกลับมา กุมภกรรณได้ทีที่สุครีพเสียกำลังไปมาก เข้าต่อสู้กับสุครีพ สุครีพเสียทีถูกกุมภกรรณจับได้หนีบรักแร้กลับกรุงลงกา พระรามจึงให้หนุมานตามไปช่วย หนุมานไปทันกุมภกรรณก่อนเข้าประตูเมืองลงกา ตรงเข้าโจมตีกุมภกรรณจนช่วยสุครีพหลุดออกมาได้ ทั้งสองรุมกัดหูกัดจมูกกุมภกรรณ แล้วหนีกลับไปเข้าเฝ้าพระราม ส่วนกุมภกรรณทั้งโกรธทั้งแค้นที่จมูกขาดหูขาดร้องไห้ไปพบทศกัณฑ์ ทศกัณฑ์จึงปลอบใจว่า เรื่องแพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดาของการทำศึก แม้แพ้ก็ไม่เป็นไร กลับมาคิดกลศึกด้วยปัญญาแล้วออกไปสู้ศึกใหม่

การทำงานในองค์กร
ย่อมมีทั้งงาน ที่ทำสำเร็จแลไม่สำเร็จ
การทำงานสำเร็จ ไม่ควรลิงโลดดีใจ คุยโว คุยโต โอ้อวด
งานชิ้นต่อไป อาจล้มเหลวหายนะ

การทำงานไม่สำเร็จ ไม่ควรเสียใจ ตีอกชกหัว หมดหวัง สิ้นสภาพ
ขอเพียงคิดทบทวน รู้จุดผิดพลาด
รู้จักใช้ปัญญา ใช้ข้อมูล ปรับกระบวนการ ปรับกลยุทธ
วิเคราะห์ใหม่ให้รอบคอบ แก้ตัวใหม่ได้

รบแพ้ไม่เป็นไร
แต่อย่าแพ้แล้วแพ้เลย



ไม่มีความคิดเห็น: