๑๓๘
แม้ผู้ใดจะใคร่กินข้าวใหม่
จงคอยให้เจ้าใหม่มาครองเมืองเถิด
ก็จะได้กินสมความคิด
สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 53
เมื่อม้าเฉียวมาสวามิภักดิ์ต่อเล่าปี่แล้ว ก็อาสาเล่าปี่ไปเจรจาเล่าเจี้ยง
แนะนำให้เล่าเจี้ยงยอมยกเมืองให้เล่าปี่แต่โดยดี เล่าเจี้ยงได้ยินถึง
กับตกใจสลบลง เมื่อฟื้นขึ้นมาจึงปรึกษาทหารทั้งปวงว่าจะยอมออก
ไปนบนอบยกเมืองให้แก่เล่าปี่ ตั๋งโหคัดค้านแต่เจาจิ๋วที่ปรึกษาเห็นว่า
เล่าเจี้ยงตัดสินใจถูกแล้ว และบอกว่าตนดูดาวประจำเมืองเสฉวนนั้น
หายไป มีดาวดวงใหญ่ขึ้นมาแทน ทั้งยังได้ยินเด็กๆในเมืองเสฉวน
ร้องเพลงเล่นว่า แม้ผู้ใดจะใคร่กินข้าวใหม่ จงคอยให้เจ้าใหม่
มาครองเมืองเถิดก็จะได้กินสมความคิด
ในยุคโบราณกาล
เมื่อผลัดเปลี่ยนเจ้าครองแผ่นดินใหม่
จะเปิดยุ้งฉาง นำข้าวออกแจกจ่ายประชาชน
ประชาชนรู้สึกเหมือนได้กินข้าวใหม่
อยากกินข้าวใหม่จึงต้องคอยให้เจ้าใหม่มาครองเมือง
การทำงานในองค์กร
ต้องทำตามนโยบายปัจจุบัน
ต้องทำตามผู้บังคับบัญชาปัจจุบัน
อยากทำรูปแบบใหม่
อยากทำรูปแบบที่แตกต่าง
จงคอย ผู้บังคับบัญชาคนใหม่
อยากทำรูปแบบใหม่
อยากทำรูปแบบที่แตกต่าง
อยากทำตามที่ตนเองคิด
ต้องเป็นผู้บังคับบัญชาเอง
เป็นผู้บังคับบัญชาเองไม่ได้
คอยผู้บังคับบัญชาคนใหม่ไม่ได้
ก็ย้าย ตนเองไปหาผู้บังคับบัญชาใหม่ที่อื่น
แม้มีผู้บังคับบัญชาใหม่
ก็ทำในสิ่งที่ตนเองคิดไม่ได้อยู่ดี
ด้วยต้อง ทำตามผู้บังคับบัญชาเสมอไป
หากยังคงทำใจไม่ได้
คงต้อง คอยผู้บังคับบัญชาใหม่ต่อไป
สามก๊ก อ่านสามจบ ยังคบได้
ผู้เขียนเองก็นับว่าอ่านสามก๊ กมามากกว่าสามจบ ทั้งฉบับ เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ฉบับ วรรณไว พัธโนทัย ฉบับ ยาขอบ และฉบับ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อ่านแล้วก็ลืม ลืมแล้วก็อ่าน อ่านทุกครั้งก็สนุกทุกครั้ง ไม่วิเคราะห์ไม่คิดมากให้เสียเวลา อ่านเอาสนุก อ่านเป็นนิยาย
ผู้เขียนฟัง อาปา เล่าเรื่องสามก๊กให้ฟังมาตั้ งแต่เด็ก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องไหวพริบของตั วละครต่างๆในสามก๊ก ซึ่งก็เป็นเหตุทำให้ผู้เขียนสนใจอ่านสามก๊กเพื่อไปค้นหาข้อความที่อาปาเล่า ฉบับแรกที่อ่านก็เป็นฉบับ เจ้าพระยาพระคลัง(หน) เล่มใหญ่หนาที่บ้านอาโกว
มานึกได้วันหนึ่งว่า น่าจะลองอ่านสามก๊กใหม่อีกสักหน คราวนี้จะลองอ่านแบบ อ่านเอาเรื่อง อ่านตรงที่คนอื่นเขาไม่อ่านกัน เพื่อยืนยันว่าอ่านอีกกี่จบก็น่าจะ ยังคบได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น