วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด(ไม่ธรรมดา เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์)


"มองมุมอื่นบ้างสิ"

ไม่ธรรมดา เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
เพชรยุพา บูรณ์สิริจรุงรัฐ

คนผู้หนึ่งจะดีหรือเลว ไม่เพียงอยู่ที่การกระทำของคนผู้นั้น หากยังอยู่ที่ทัศนคติของผู้มอง
หากทัศนคติตรงกัน แม้การกระทำจะเลวร้ายก็อาจกลับกลายเป็นคนดี
หากทัศนคติไม่ตรงกัน การกระทำดีก็อาจกลับกลายเป็นคนเลว

ทัศนคติเป็นเพียงมุมมองที่อาจปรับเปลี่ยนได้
ลองมองผู้อื่นด้วยมุมอื่นดูบ้าง


ต้นเรื่อง

ไม่ธรรมดา เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เป็นหนังสือที่เขียนถึงประวัติของ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ในแบบมุมมองของผู้เขียนที่ศรัทธาชื่นชอบ พร้อมรวบรวมคำสัมภาษณ์ทัศนคติ และภาพประกอบสี่สี ทั้งภาพวาดฝีมืออาจารย์เฉลิมชัย และภาพชีวิตอาจารย์เฉลิมชัยที่ไม่ได้เห็นจากที่อื่น


Quote ที่น่าสนใจเพิ่มเติมจากหนังสือเล่มนี้

"ธุรกิจก็คือธุรกิจ"

จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด





วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด(เหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ 1)


"น้ำมาก่อทำนบกั้น พลิกแพลงไปตามสถานการณ์"

เหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ 1
หวงอี้ : น.นพรัตน์

การทำงาน ไม่ว่างานเล็กหรืองานใหญ่ ไม่ว่างานส่วนรวมหรืองานส่วนตัว ไม่ว่างานการเมืองหรือการทหาร ย่อมต้องมีการวางแผน

ผู้วางแผนต้องอาศัยทั้งข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน อาศัยความรู้ในตัวตนและอาศัยประสบการณ์ ทั้งการวางแผนยังต้องเตรียมแผนเผื่อรองรับและแก้ไขผลอันไม่พึงประสงค์

แม้จะเตรียมการอย่างดีเพียงใด สภาวะแวดล้อมอาจเปลี่ยนไปได้ทุกเมื่อ จึงอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ไม่สอดคล้องกับแผนใด ๆ การทำงานจึงต้องพลิกแพลงไปตามสถานการณ์

คนจะพลิกแพลงได้ต้องมีความรู้ มีข้อมูล และมีประสบการณ์

คนจะพลิกแพลงได้ต้องไม่เป็นคนโง่แล้วอวดฉลาด


ต้นเรื่อง

เหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ สุดยอดผลงานวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์ของ หวงอี้ เป็นภาคแรก ในชุดไตรภาคถังรุ่งเรือง เรื่องราวในช่วงราชวงศ์ถัง ซึ่งเป็นเหตุการณ์หลังจากยุคของ โค่วจง และ ฉีจื่อหลิง ใน มังกรคู่สู้สิบทิศ โดยหวงอี้สร้างตัวเอก หลงอิง จากสำนักมารขึ้นมาโรมรันพันตูกับจอมจักรพรรดินีบูเช็กเทียน เรื่องราวเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงสลับซับซ้อน ยาวถึง 18 เล่ม


Quote ที่น่าสนใจเพิ่มเติมจากหนังสือเล่มนี้

"บทลงโทษไม่เข้มงวด ไม่อาจปราบกังฉิน"

หมายเหตุ
จินตนาการจากเพื่อนเฟสบุ้คบางคน

@เจมส์ เจมส์
น้ำมาแรงทำนบก็เอาไม่อยู่


จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด












วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด(ไล่ตงจิ้น ลูกขอทานผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตาชีวิต)


"เลิกหาข้ออ้างเสียที"

ไล่ตงจิ้น ลูกขอทานผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตาชีวิต
LAI DONG JIN - วิลาวัลย์ สกุลบริรักษ์

ข้ออ้าง คือ สิ่งที่นำมาอ้างสนับสนุนความคิดเห็นหรือการกระทำของตน
ผู้คนจะหาข้ออ้างเมื่อ ไม่ต้องการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ควรทำ
ผู้คนจะหาข้ออ้างเมื่อ ต้องการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรทำ
ผู้คนจะหาข้ออ้างเมื่อ ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งล้มเหลว
ผู้คนจะหาข้ออ้างเมื่อ เกิดภาวะไม่เชื่อมั่นในตนเอง
ผู้คนจะหาข้ออ้างเมื่อ ท้อแท้ ตกอยู่ในภาวะหมดกำลังใจ

ผู้คนจะหาข้ออ้างเพียงเพื่อให้ตนสบายใจ ก็แค่หลอกตัวเอง
เลิกหาข้ออ้างเสียที


ต้นเรื่อง

ไล่ตงจิ้น ลูกขอทานผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตาชีวิต วิลาวัลย์ สกุลบริรักษ์ แปลจาก Beggar Child ที่เขียนโดย LAI DONG JIN เป็นหนังสืออัตชีวประว้ติของไล่ตงจิ้น ซึ่งเคยเป็นขอทาน มีพ่อตาบอดที่เป็นขอทาน มีแม่กับน้องชายคนโตปัญญาอ่อน น้องเล็ก ๆ ที่ต้องดูแล พี่สาวที่ช่วยขอทานและท้ายสุดต้องถูกขายไปเป็นโสเภณี เพื่อได้เงินมาส่งให้ไล่ตงจิ้นได้เรียนหนังสือ เขาต่อสู้กับชีวิตที่แสนยากลำบากจนได้รับตำแหน่งบุคคลดีเด่นแห่งไต้หวัน


Quote ที่น่าสนใจเพิ่มเติมจากหนังสือเล่มนี้

"การเปลี่ยนแปลงตนเองย่อมง่ายกว่าการเปลี่ยนแปลงผู้อื่น"

"ผมต้องเลิกหาข้ออ้างเสียที"

หมายเหตุ
จินตนาการจากเพื่อนเฟสบุ้คบางคน

@พงษ์ศักดิ์ ฉิ่งสุวรรณโรจน์
ข้ออ้าง = ข้อแก้ตัว


จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด

วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2568

จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด(ยอดศัสตรา 2)


"มีแต่คนปัญญาอ่อนจึงไม่รู้จักยกย่องผู้อื่น"

ยอดศัสตรา 2
จิวนึ้ง - น.นพรัตน์

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ที่อยู่ร่วมกันด้วยเหตุผลและอารมณ์ความรู้สึก
บางครั้งใช้เหตุผลเป็นหลัก บางคราวยึดถือแต่อารมณ์ความรู้สึก
การปฏิบัติและการสื่อสารต่อกันในสังคม ไม่แน่ว่าแต่ละคราวจะใช้เหตุผลหรือใช้อารมณ์ความรู้สึก  

social media ทำให้สังคมกว้างขึ้น สังคมจึงยิ่งอยู่ยากขึ้น
การปฏิบัติหรือการสื่อสารระหว่างบุคคลสองคนจึงอาจกลับกลายเป็นเรื่องราวในวงกว้าง
หากใช้เหตุและผลก็แล้วกันไป แต่หากเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกจึงอาจคอขาดบาดตาย

ผู้คนจึงต้องพึ่งสติและปัญญามากขึ้นในการอยู่ร่วมกับสังคม


ต้นเรื่อง

ยอดศัตรา นวนิยายกำลังภายในเขียนโดย จิวนึ้ง นามปากการ่วมของสองพี่น้อง จิวฮ่ำและจิวไผ่ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน แปลโดย น.นพรัตน์ เป็นผลงานรางวัลกระบี่เงิน จากการประกวดผลงานวรรณกรรมครั้งที่ 1 โดยชมรมวรรณกรรมกำลังภายในและสำนักพิมพ์กังโซวบุ้นเหง่ย แห่งจีนแผ่นดินใหญ่ ชุดยอดศัตรา ได้รับแรงบันดาลใจจากชุดอาวุธทั้งเจ็ดของโก้วเล้ง ตัวเนื้อเรื่องทั้ง 7 ตอน เป็นเรื่องราวของอาวุธ 7 ชนิด แต่ละตอนเชื่อมโยงด้วยตัวละครและเหตุการณ์สำคัญต่อเนื่องกัน เล่มที่ 1 ประกอบด้วย 2 ตอนคือ ดาบหิมะเลือด และ หอกผีเสื้อเหิน เล่มที่ 2 ประกอบด้วย 2 ตอนคือ กระดุมกาลี และ พระจันทร์สีดำ เล่มที่ 3 ประกอบด้วย 3 ตอนคือ ร่มพรากวิญญาณ , กระบี่ไม้หอม และ ไม้เท้าสายใจ


Quote ที่น่าสนใจเพิ่มเติมจากหนังสือเล่มนี้

"ท่านไม่มีวันล่วงรู้ว่า ข่าวลือบางประการมาจากที่ใด"

"เรื่องยุ่งยากขอเพียงเริ่มต้นขึ้น จะประดังตามติดมาไม่ขาดสาย"

"เรื่องราวที่คาดคิดไม่ถึงยังมีอีกมากมาย"


จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด





วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2568

จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด(ปล่อยใจคิด ไม่ติดกรอบ)


"ท้ายสุด มนุษย์ก็ยังคงเป็นสัตว์สังคม"

ปล่อยใจคิด ไม่ติดกรอบ
กวีวุฒิ เต็มภูวภัทร

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม
โดยทั่วไป มนุษย์จะทำตัวให้สอดคล้องกับสังคม
เมื่อสังคมปรับเปลี่ยน แม้จะไม่เห็นด้วย แต่มนุษย์ก็จะโอนอ่อนผ่อนตาม

สังคมจะปรับเปลี่ยนหรือไม่ปรับเปลี่ยน มักเป็นไปตามความต้องการของชนชั้นสูงในสังคม ที่มุ่งเน้นผลประโยชน์ของชนชั้นตนเป็นหลัก

ชนชั้นล่างยังคงจำใจปรับเปลี่ยนหรือไม่ปรับเปลี่ยน เพื่อความสงบสุขของสังคม
แต่ถ้าการปรับเปลี่ยนหรือไม่ปรับเปลี่ยน ถึงจุดอิ่มตัว
ถึงเวลาควรเปลี่ยนแล้วไม่เปลี่ยน ยังไม่ถึงเวลาสมควรเปลี่ยนแต่กลับเปลี่ยน
ท้ายสุด ชนชั้นล่างอาจไม่ยินยอม


ต้นเรื่อง

ปล่อยใจคิด ไม่ติดกรอบ รวมบทความสั้น ๆ ของ กวีวุฒิ เต็มภูวภัทร ที่เสนอเรื่องราวแรงบันดาลใจของผู้นำทางธุรกิจในหลากหลายองค์กร ว่าทุกแห่งล้วนทะลุออกนอกกรอบปกติ ไม่ติดอยู่ในคอขวด เปลี่ยนวิธีคิดจาก ปลาใหญ่กินปลาเล็ก เป้นปลาเร็วกินปลาช้า องคืกรจึงจะสามารถก้าวล้ำหน้าผู้อื่นได้


Quote ที่น่าสนใจเพิ่มเติมจากหนังสือเล่มนี้

"ความสำเร็จก็อาจไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ตราบใดที่ยังยึดติด"


จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด

วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568

จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด(มังกรคู่สู้สิบทิศ (ภาคสมบูรณ์) 11)


"แผนการในคืนนี้ ไม่อาจใช้ในคืนพรุ่งนี้"

มังกรคู่สู้สิบทิศ (ภาคสมบูรณ์) 11
หวงอี้ : น.นพรัตน์

แผนการ คือสิ่งที่กำหนดไว้เป็นขั้นตอนว่าจะทำอะไรเพื่อหวังผลสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
แผนการ จึงต้องกำหนดเงื่อนไขกิจกรรมที่จะทำ บุคคลที่เกี่ยวข้อง  และห้วงเวลาดำเนินการ

เวลาที่เปลี่ยนไป อาจทำให้เงื่อนไขกิจกรรมเปลี่ยนไป
เวลาที่เปลี่ยนไป อาจทำให้บุคคลที่เกี่ยวข้องเปลี่ยนไป

หากแผนการไม่รอบคอบเพียงพอ แผนการนั้นจึงมีโอกาสล้มเหลว
แผนการไม่ใช่กำหนดการ
แผนการต้องปรับได้ตามสถานการณ์


ต้นเรื่อง

มังกรคู่สู้สิบทิศ วรรณกรรมจีนแต่งโดย หวงอี้ ในรูปแบบนิยายอิงประวิติศาสตร์ เป็นเรื่องราวของการก่อตั้งราชวงศ์ถัง ตัวเอกของเรื่องเป็นสองเด็กกำพร้าแห่งเมืองหยางโจว โค่วจง และ ฉีจื่อหลิง ใช้ชีวิตจากการเป็นอันธพาล ลักเล็กขโมยน้อย ต่อมาฟ้าประทานให้ทั้งสองได้รับเคล็ดวิชา จนสามารถรวบรวมสมัครพรรคพวกเป็นกองกำลังเข้าร่วมกระบวนการชิงแผ่นดิน ไม่ว่าเรื่องราวจะหนักหนาสาหัสถึงกับต้องแลกด้วยชีวิตปานใด คุณธรรมก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่สองสหายยึดมั่น มังกรคู่สู้สิบทิศ แบ่งออกเป็น 2 ภาค ภาคแรก มังกรคู่สู้สิบทิศ 10 เล่ม และภาค 2 มังกรคู่สู้สิบทิศ ภาคสมบูรณ์ 11 เล่ม

Quote ที่น่าสนใจเพิ่มเติมจากหนังสือเล่มนี้

"ทองคำยิ่งขัดถูยิ่งแวววาว ถ่านไม้ยิ่งชะล้างยิ่งดำเมื่อม"

"คนมิใช่ต้นไม้ใบหญ้า ไหนเลยลืมน้ำใจได้"

"ผู้ใดเฉลียวฉลาด ผู้นั้นจะมีชีวิตรอดสืบไป"

"ร้อยคำพันคำมิสู้คำเยินยอ"

"คิดรู้จักคนยากเย็น คิดใช้สอยคนยากเย็นยิ่งกว่า"


จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด






วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2568

จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด(โทษ(ส)ถานที่อยากไป)


"ความพยายามหาเหตุผลในบางสิ่ง ก็ออกเป็นเรื่องไร้สาระ"

โทษ(ส)ถานที่อยากไป
ธีรภาพ โลหิตกุล

มนุษย์มีวิธีคิดและทำเรื่องราวต่าง ๆ อยู่เพียงสองอย่าง
หนึ่งคือ คิดหรือทำด้วยเหตุแลผล
หนึ่งคือ คิดหรือทำด้วยอารมณ์ความรู้สึก

หากเป็นเรื่องเหตุผลย่อมไม่จำต้องคำนึงถึงอารมณ์ความรู้สึก
และหากเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกก็มักไม่มีเหตุผล

คนที่พยายามหาเหตุผลจากอารมณ์ความรู้สึก เป็นคนไร้สาระ


ต้นเรื่อง

โทษ(ส)ถานที่อยากไป เป็นบันทึกเรื่องราวประสบการณ์การเดินทางไปเยือนกลุ่มประเทศเอเชียกลาง ของผู้เขียน ได้แก่ประเทศ อุซเบกิสถาน คาซัคสถาน ภูฏาน และอินเดีย (รัฐสิกขิมและรัฐอัสสัม) ซึ่งไม่ค่อยมีใครเดินทางไปท่องเที่ยว ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก จึงเป็นการเปิดโลกทัศน์ที่น่าสนใจทั้งมุมมองด้านศาสนา วัฒนธรรม เชื้อชาติ และ ศิลปวัฒนธรรม


Quote ที่น่าสนใจเพิ่มเติมจากหนังสือเล่มนี้

"ถ้าเราไม่รู้ว่าตัวเราคือใคร เราจะปกป้องตัวเองอย่างไร"


จินตนาการจากการอ่าน ช่างเพริศแพร้วยิ่งกว่าสิ่งใด