วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ขาไก่

๑๕๒

จะทิ้งเสียก็เสียดายด้วยยังมีรสอยู่

สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 58

          เมื่อโจเจียงได้ข่าวว่าโจโฉผู้บิดาหนีทัพเล่าปี่มาตั้งทัพอยู่ ณ ด่านเองเปงก๋วน ก็ยกทัพมาช่วย จึงพากันยกทัพมาตั้งค่ายอยู่ ณ หุบเขาเสียดก๊ก เล่าปี่ให้เล่าฮองกับเบ้งตัดออกรบกับโจเจียง เล่าฮองแพ้กลับถอยหลัง เบ้งตัดขับทหารหนุนเข้า ม้าเฉียวงอหลันเข้าช่วยตีกระหนาบ มิทันได้แพ้ชนะกัน โจโฉจึงให้ทหารถอยกลับมาตั้งอยู่ ณ หุบเขาเสียดก๊ก โจโฉคิดในใจว่า แต่มาอยู่ที่นี่ช้านานแล้ว ครั้นจะยกไปบัดนี้ข้าศึกก็ยังต้านอยู่ พอดีกับพ่อครัวยกเอาไก่ต้มตัวหนึ่งเข้ามาถวาย โจโฉกินเนื้อไก่สิ้นแล้ว ยังเหลือกระดูก จึงเอาตะเกียบหยิบขาไก่ชูขึ้นไว้ รำพึงแต่ในใจว่า จะทิ้งเสียก็เสียดายด้วยยังมีรสอยู่ ขาไก่นี้เปรียบดังการสงครามครั้งนี้ ครั้นจะละเลิกเสียก็อัปยศ จะทำเอาชัยชนะก็ไม่สะดวก

ขาไก่ แทะไม่ได้ กินไม่ได้ แต่ดูดความหวานได้
ขาไก่ แม้ดูดความหวานได้ แต่ก็แทะไม่ได้ กินไม่ได้
จึงไม่มีประโยน์อันใด ที่สุดก็ต้องโยนทิ้งไป

ของบางชิ้น
ใช้ประโยชน์ไม่ได้ แต่เจ้าของก็ยังหลงชื่นชม
เกะกะ รกบ้าน ที่สุดก็ต้องโยนทิ้งไป


งานบางงาน โครงการบางโครงการ
ดูเหมือนจะได้ผลลัพธ์เลอเลิศ
แต่ยิ่งทำ เหมือนยิ่งห่างไกลความสำเร็จ

เสียแรง เสียเวลา ที่สุดก็ต้องโยนทิ้งไป

คนบางคน
มีแค่คอยป้อยอ ให้คำหวาน หาประโยชน์ใดมิได้
หลงคำหวาน ไม่เพียงไร้ประโยชน์
อาจทำให้ทุกข์ เดือดเนื้อร้อนใจ
เป็นปัญหาต่อองค์กรมิรู้จบสิ้น


อย่าเสียดายรสหวาน
พึงรีบโยนทิ้งไป



สามก๊ก อ่านสามจบ ยังคบได้

มีคำกล่าวล่ำลือถึงความเป็น สุดยอดตำราทางยุทธศาสตร์ ของ สามก๊ก ว่า อ่านสามจบคบไม่ได้  ฟังดูก็ไม่เชิงว่าจะเป็นการนิยมยกย่องสักเท่าไร เพราะเหตุที่คบไม่ได้ มิใช่ว่าจะเป็นคนเก่งกล้าสามารถ แต่หากจะเป็นคน เจ้าเล่ห์แสนกล ด้วยสามก๊กนั้นเต็มไปด้วยกลอุบาย หรือที่คบไม่ได้อาจเป็นเพราะ ท่าทางจะเป็นคนโง่เหลือกำลัง ที่ทนอ่านอยู่ได้ตั้งสามจบ
ผู้เขียนเองก็นับว่าอ่านสามก๊กมามากกว่าสามจบ ทั้งฉบับ เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ฉบับ วรรณไว พัธโนทัย ฉบับ ยาขอบ และฉบับ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อ่านแล้วก็ลืม ลืมแล้วก็อ่าน อ่านทุกครั้งก็สนุกทุกครั้ง ไม่วิเคราะห์ไม่คิดมากให้เสียเวลา อ่านเอาสนุก อ่านเป็นนิยาย
ก็คนเขียนเขาเขียนเป็นนิยาย จะไปอ่านเอาสาระทำไมกัน หาก หลอกว้านจง ผู้ประพันธ์ รู้เข้าก็คงจะงุนงงเป็นยิ่งนักที่สามก๊กกลายเป็นตำราพิชัยสงคราม ตำราการบริหารเชิงยุทธศาสตร์ ไปได้
ผู้เขียนฟัง อาปา เล่าเรื่องสามก๊กให้ฟังมาตั้งแต่เด็ก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องไหวพริบของตัวละครต่างๆในสามก๊ก ซึ่งก็เป็นเหตุทำให้ผู้เขียนสนใจอ่านสามก๊กเพื่อไปค้นหาข้อความที่อาปาเล่า ฉบับแรกที่อ่านก็เป็นฉบับ เจ้าพระยาพระคลัง(หน) เล่มใหญ่หนาที่บ้านอาโกว 
มานึกได้วันหนึ่งว่า น่าจะลองอ่านสามก๊กใหม่อีกสักหน คราวนี้จะลองอ่านแบบ อ่านเอาเรื่อง อ่านตรงที่คนอื่นเขาไม่อ่านกัน เพื่อยืนยันว่าอ่านอีกกี่จบก็น่าจะ ยังคบได้

วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ตามผิด

๑๕๑



ถ้าผิดก็จะเอาโทษตามผิด

สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 58

          เมื่อพระเจ้าเหี้ยนเต้มาอยู่เมืองฮูโต๋ได้ยี่สิบสามปี ออหวนอยู่เมืองไตกุ๋นคิดการขบถ โจโฉให้โจเจียงผู้บุตรยกทหารห้าหมื่นไปรบเมืองไตกุ๋น จึงสั่งสอนโจเจียงว่า เมื่อเราอยู่บ้านอยู่เรือนนั้นเป็นพ่อลูกกัน บัดนี้เจ้าจะไปทำการศึกก็เหมือนข้ากับเจ้า อย่าได้คิดประมาท ถ้าผิดก็จะเอาโทษตามผิด เราสั่งสอนเจ้าจงควรจำเถิด

เมื่ออยู่ในราชการสงคราม
กฎเกณฑ์ของกองทัพถือว่าสำคัญที่สุด
ในราชการสงคราม ไม่มีพ่อไม่มีลูก ไม่มีพี่ไม่มีน้อง
ในราชการสงคราม มีแต่แม่ทัพ ทหารเอก ทหารเลว
ทุกคนมีบทบาทหน้าที่ตามตำแหน่ง
ผู้ทำผิดกฎเกณฑ์ ก็จะได้รับโทษตามผิด

หากกฎเกณฑ์เป็นกฎเกณฑ์
ก็จะไม่มีผู้ตั้งใจฝ่าฝืนกฎเกณฑ์

บางองค์กร กฎเกณฑ์ไม่เป็นกฎเกณฑ์
เพราะเป็นผู้บังคับบัญชา จึงทำผิดกฎเกณฑ์ได้
เพราะใกล้ชิดผู้บังคับบัญชา จึงทำผิดกฎเกณฑ์ได้
เพราะผู้บังคับบัญชาเกรงใจ จึงทำผิดกฎเกณฑ์ได้
เพราะผู้บังคับบัญชาเกรงกลัว จึงทำผิดกฎเกณฑ์ได้

กฎเกณฑ์จึงไม่เป็นกฎเกณฑ์
องค์กร ถึงอยู่ได้ก็ง่อนแง่น ไม่เจริญ


วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ผู้อื่นก็มีฝีมือ

๑๕๐



อย่าให้เชื่อกำลังฝีมือของตัว


สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 57

          เมื่อโจโฉยกทัพถึงเมืองลำเต๋งซึ่งโจหองอยู่รักษานั้น โจหองทูลว่า บัดนี้เล่าปี่ให้ฮองตงยกมารบเขาเตงกุนสัน แฮหัวเอี๋ยนรู้ว่าโจโฉยกกองทัพมา ก็รั้งรออยู่ยังไปยอมออกรบกับฮองตง โจโฉจึงแต่งหนังสือจะให้ทหารถือไปให้แฮหัวเอี๋ยนเร่งออกรบกับฮองตง เล่าหัวจึงทูลว่าแฮหัวเอี๋ยนเป็นคนโมโหมาก จะเสียทีเปล่า โจโฉได้ฟังก็เห็นด้วย จึงแต่งหนังสืออีกฉบับเป็นใจความว่า ธรรมดาผู้เป็นนายทัพนายกองจะทำการสงครามก็ให้รู้จักทีเสียทีได้ อย่าให้เชื่อกำลังฝีมือของตัวอันกำลังฝีมือของตัวนั้นจะหักหาญเอาคนร้อยคนพันนั้นไม่ได้จะสู้ได้ก็ตัวต่อตัว ถ้าเว้นไว้แต่ผู้มีความคิดรู้กลในการสงคราม จึงจะสามารถเอาชัยชนะแก่ข้าศึกอันมากกว่าได้

สิ่งใดที่เราคิดได้ ย่อมมีผู้อื่นคิดได้
สิ่งใดที่เราทำได้ ย่อมมีผู้อื่นทำได้

ทั้งผู้อื่นอาจ คิดได้ดีกว่า ทำได้ดีกว่า

อย่ายึดมั่นว่าตัวเรามีความสามารถเพียงผู้เดียว
อย่ายึดมั่นว่าตัวเรามีฝีมือเพียงคนเดียว
ผู้อื่นก็มีความสามารถ ผู้อื่นก็มีฝีมือ

การเชื่อมั่นในตนเองเป็นสิ่งดี
แต่ต้องไม่ดูหมิ่นดูแคลนผู้อื่น

แม้ผู้อื่นผู้เดียวอาจทำเช่นเรามิได้
แต่ผู้อื่นหลายคน ย่อมมีคนที่ทำเช่นเราได้
ทั้งผู้อื่นหลายคน ย่อมมีคนที่ทำดีกว่าเราได้

ขาดเรา องค์กรจึงหาผู้อื่นมาทดแทนได้
ขาดเรา องค์กรจึงไม่เดือดร้อน
ขาดเรา องค์กรอาจพัฒนาก้าวหน้ากว่าเดิม


วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ทีเสียทีได้

๑๔๙



จะทำการสงครามก็ให้รู้จักทีเสียทีได้

สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 57



          เมื่อโจโฉยกทัพถึงเมืองลำเต๋งซึ่งโจหองอยู่รักษานั้น โจหองทูลว่า บัดนี้เล่าปี่ให้ฮองตงยกมารบเขาเตงกุนสัน แฮหัวเอี๋ยนรู้ว่าโจโฉยกกองทัพมา ก็รั้งรออยู่ยังไปยอมออกรบกับฮองตง โจโฉจึงแต่งหนังสือจะให้ทหารถือไปให้แฮหัวเอี๋ยนเร่งออกรบกับฮองตง เล่าหัวจึงทูลว่าแฮหัวเอี๋ยนเป็นคนโมโหมาก จะเสียทีเปล่า โจโฉได้ฟังก็เห็นด้วย จึงแต่งหนังสืออีกฉบับเป็นใจความว่า ธรรมดาผู้เป็นนายทัพนายกอง จะทำการสงครามก็ให้รู้จักทีเสียทีได้


เมื่อเล่นการพนัน บางครั้งก็เสีย บางครั้งก็ได้
เมื่อเล่นเสีย หากมัวคร่ำครวญถึงเงินที่เสียไป
ทุ่มเงินที่มีอยู่ โดยหวังว่าจะได้คืน
อาจถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัว
ต้องรู้จักทีเสียทีได้

เมื่อเล่นได้ หากละโมบหวังได้เพิ่ม
ทุ่มเงินที่มีอยู่ โดยหวังว่าจะได้อีก
อาจถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัว
ต้องรู้จักทีเสียทีได้

การทำงานก็เช่นกัน
กลยุทธและวิธีการ
บางครั้งอาจนำไปสู่ความสำเร็จ
บางครั้งอาจนำไปสู่ความล้มเหลว

กลยุทธที่เคยนำไปสู่ความสำเร็จ
อาจมิได้ผลสำเร็จทุกครั้งไป

สั่งใช้กลยุทธที่เคยสำเร็จ
อาจประสบกับความล้มเหลว

กลยุทธที่เคยนำไปสู่ความล้มเหลว

อาจมิได้ผลล้มเหลวทุกครั้งไป

สั่งงดใช้กลยุทธที่เคยล้มเหลว
อาจมิได้จะประสบความสำเร็จ


ทุกกลยุทธย่อมมี ทีเสียทีได้
จึงต้องประเมินกลยุทธใหม่ทุกครั้ง


อย่าเชื่อมั่นใน วิธีการเดิม

อย่ามั่นใจใน คนเดิม