วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556

อุตสาหะ


๖๙

อันธรรมดาจะปรารถนาของดี
ก็ย่อมประกอบด้วยความอุตส่าห์จึงจะได้

สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 33

เมื่อได้ทราบชื่อขงเบ้ง รู้ที่อยู่อาจารย์ฮกหลง เล่าปี่เพียรพยายามไปหาขงเบ้ง
เพื่อเชิญชวนมาทำราชการด้วย แม้จะได้รับคำทักท้วงจากกวนอูและเตียวหุยอย่างไร
เล่าปี่ก็มิได้ย่อท้อ บอกกับเตียวหุยว่า อันธรรมดาจะปรารถนาของดี
ก็ย่อมประกอบด้วยความอุตส่าห์จึงจะได้

เลี้ยงลูกเจี๊ยบ ต้องใช้เวลา จึงจะเติบโตเป็นแม่ไก่ ออกไข่ให้ตามต้องการ
ไม่สามารถเร่งลูกเจี๊ยบให้ออกไข่ได้
มีแต่ต้องไปหยิบยืมไข่เก่าที่อื่นมาให้

เมื่อแม่ไก่ไม่แข็งแรง ย่อมงดออกไข่
ไม่สามารถบีบบังคับให้ออกไข่ได้
มีแต่ต้องรักษาบำรุงให้สุขภาพดี แข็งแรงดังเดิมก่อน

การงานใด หากหวังผลลัพธ์ที่ดี ต้องมีเวลา ให้ศึกษา วิเคราะห์
และ ดำเนินการตามกระบวนการที่เหมาะสม
หากเร่งรัดจนเกินไป ย่อมได้งานที่ไม่มีคุณภาพ หรือโดนหลอก ได้งานเก่าเก็บมาแสดง

คนทำงาน ต้องมีความรู้ ความสามารถ มีความพร้อม จึงจะเร่งรัดสร้างผลงานได้

ผู้บริหาร มีหน้าที่ในการกระตุ้นด้วยกลวิธีการต่างๆอย่าง อุตสาหะ
และ เฝ้ารอผลแห่งความสำเร็จด้วยความ อดทน

หมายเหตุ
แม่ไก่ไข่หมดสภาพ หากไม่เชือดขายเป็นไก่เนื้อ
ก็ต้องยอมเสียต้นทุนเลี้ยงดูไปจนตาย

คน ไม่ใช่ แม่ไก่ 
คน ย่อมสามารถพัฒนาตนได้

วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2556

พินิจพิเคราะห์


๖๘

อ้ายจัญไรโฉดเขลาหาปัญญามิได้ ธรรมเนียมมีหรือ
เกิดมาเป็นชายมิได้พินิจพิเคราะห์ ได้แต่หนังสือแล้วก็เชื่อฟังเอา


สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 33

เทียหยกทำหนังสือปลอมเป็นลายมือมารดาของชีซี เรียกร้องให้ชีซี
กลับมาอยู่กับโจโฉ มิฉะนั้นมารดาอาจถูกโจโฉทำร้ายเอาได้ ชีซี
หลงเชื่อลาจากเล่าปี่มาอยู่ด้วยโจโฉ ฝ่ายมารดาชีซี ครั้นเห็นชีซี 
มาคุกเข่าคำนับหมอบอยู่ตรงหน้า ก็โกรธร้องด่าชีซีว่า
อ้ายจัญไรโฉดเขลาหาปัญญามิได้ ธรรมเนียมมีหรือ เกิดมา
เป็นชายมิได้พินิจพิเคราะห์ ได้แต่หนังสือแล้วก็เชื่อฟังเอา

พระพุทธองค์ทรงสอนหลัก กาลามสูตร

อย่าเชื่อ โดยฟังตามกันมา
อย่าเชื่อ โดยถือว่าเป็นของเก่าเล่าสืบกันมา
อย่าเชื่อ เพราะข่าวเล่าลือ
อย่าเชื่อ โดยอ้างคัมภีร์หรือตำรา
อย่าเชื่อ โดยคิดเดาเอาเอง
อย่าเชื่อ โดยคิดคาดคะเนอนุมานเอา
อย่าเชื่อ โดยตรึกเอาตามอาการที่ปรากฏ
อย่าเชื่อ เพราะเห็นว่าต้องกับความเห็นของตน
อย่าเชื่อ เพราะผู้พูดควรเชื่อได้
อย่าเชื่อ เพราะผู้พูดนั้นเป็นครูของเรา
แต่จงเชื่อ ก็ต่อเมื่อได้ศึกษาและวิเคราะห์
พิสูจน์ได้ด้วยข้อเท็จจริงและด้วยเหตุด้วยผล


การทำงาน จึงไม่พึงฟังแต่รายงาน
เชื่อข้อมูลโดยไม่ศึกษาและวิเคราะห์
เชื่อโดยไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริง

พึงพินิจพิเคราะห์ มีสติ รู้เหตุผล ไม่เชื่อง่าย

หมายเหตุ
ในยุคสมัย Social Media กำลังร้อนแรง
อย่าเชื่อ เพราะเป็นข้อความที่ share ต่อๆกันมา
อย่า share เพราะเชื่อ โดยยังมิได้ พินิจพิเคราะห์ ตรวจสอบข้อเท็จจริง

การ share บ่งบอกถึง วุฒิภาวะ
การ share บ่งบอกถึง จิตภาวะ



สามก๊ก อ่านสามจบ ยังคบได้

มีคำกล่าวล่ำลือถึงความเป็น สุดยอดตำราทางยุทธศาสตร์ ของ สามก๊ก ว่า อ่านสามจบคบไม่ได้  ฟังดูก็ไม่เชิงว่าจะเป็นการนิยมยกย่องสักเท่าไร เพราะเหตุที่คบไม่ได้ มิใช่ว่าจะเป็นคนเก่งกล้าสามารถ แต่หากจะเป็นคน เจ้าเล่ห์แสนกล ด้วยสามก๊กนั้นเต็มไปด้วยกลอุบาย หรือที่คบไม่ได้อาจเป็นเพราะ ท่าทางจะเป็นคนโง่เหลือกำลัง ที่ทนอ่านอยู่ได้ตั้งสามจบ

ผู้เขียนเองก็นับว่าอ่านสามก๊กมามากกว่าสามจบ ทั้งฉบับ เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ฉบับ วรรณไว พัธโนทัย ฉบับ ยาขอบ และฉบับ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อ่านแล้วก็ลืม ลืมแล้วก็อ่าน อ่านทุกครั้งก็สนุกทุกครั้ง ไม่วิเคราะห์ไม่คิดมากให้เสียเวลา อ่านเอาสนุก อ่านเป็นนิยาย

ก็คนเขียนเขาเขียนเป็นนิยาย จะไปอ่านเอาสาระทำไมกัน หาก หลอกว้านจง ผู้ประพันธ์ รู้เข้าก็คงจะงุนงงเป็นยิ่งนักที่สามก๊กกลายเป็นตำราพิชัยสงคราม ตำราการบริหารเชิงยุทธศาสตร์ ไปได้

ผู้เขียนฟัง อาปา เล่าเรื่องสามก๊กให้ฟังมาตั้งแต่เด็ก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องไหวพริบของตัวละครต่างๆในสามก๊ก ซึ่งก็เป็นเหตุทำให้ผู้เขียนสนใจอ่านสามก๊กเพื่อไปค้นหาข้อความที่อาปาเล่า ฉบับแรกที่อ่านก็เป็นฉบับ เจ้าพระยาพระคลัง(หน) เล่มใหญ่หนาที่บ้านอาโกว 

มานึกได้วันหนึ่งว่า น่าจะลองอ่านสามก๊กใหม่อีกสักหน คราวนี้จะลองอ่านแบบ อ่านเอาเรื่อง อ่านตรงที่คนอื่นเขาไม่อ่านกัน เพื่อยืนยันว่าอ่านอีกกี่จบก็น่าจะ ยังคบได้

วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

หลับตา ลืมตา


๖๗

ก็มีความยินดีสว่างในอารมณ์
ดุจหนึ่งบุคคลหลับตาอยู่แลลืมขึ้น

สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 33

เมื่อโจโฉใช้กลยุทธจับตัวมารดาของชีซีไว้ บีบให้เล่าปี่จำต้องปล่อยตัวชีซีไปอยู่กับโจโฉนั้น
เล่าปี่ให้ละห้อยละเหี่ยนัก ด้วยขาดคนมีสติปัญญาเป็นคู่คิดในการสงคราม  เล่าปี่สั่งทหาร
ตัดพุ่มไม้ให้สามารถมองเห็นชีซีจากไปจนลับตา ชีซีจึงควบม้ากลับมาบอกให้เล่าปี่ไปเชิญ
ฮกหลงแห่งเขาโงลังกั๋งมาทำราชการด้วย เล่าปี่จึงรู้สึกโล่งปรอดโปร่ง มีความยินดี
สว่างในอารมณ์ ดุจหนึ่งบุคคลหลับตาอยู่แลลืมขึ้น

เมื่อหลับตา ย่อมมองไม่เห็นสิ่งใด
เมื่อมองไม่เห็นสิ่งใด ย่อมเป็นความวิตกกังวล
เมื่อวิตกกังวล ย่อมเป็นความทุกข์
ทุกข์ที่มองไม่เห็นสิ่งใด
เหตุใดจึงไม่ลืมตาขึ้น

เมื่อลืมตา ก็เห็นแต่ความวุ่นวาย
ความวุ่นวาย ก่อให้เกิดความวิตกกังวล
ความวิตกกังวล ก่อให้เกิดความทุกข์
ทุกข์ที่เห็นมากเกินไป
เหตุใดจึงไม่หลับตาเสีย

ลืมตา หรือ หลับตา อยู่ที่ตัวเราเอง


วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เลือกคุณธรรม


๖๖

อันธรรมดาแม่ลูกกันนี้ก็เหมือนชีวิตเดียวกัน
เมื่อมีเหตุฉะนี้ก็เป็นประเพณีบุตรจะสงเคราะห์แก่มารดา
ใครห่อนจะอาจทิ้งมารดาเสียได้

สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 33

โจโฉไปรับเอามารดาชีซีมาเลี้ยงดู หวังจะให้ชีซีทิ้งเล่าปี่มาอยู่ด้วย เทียหยกปลอม
ลายมือมารดาชีซี เขียนหนังสือถึงชีซีให้ทิ้งเล่าปี่มาอยู่ด้วยโจโฉ  มิฉะนั้นคงจะตาย
เพราะอาญาโจโฉเป็นมั่นคง  ชีซีขอเล่าปี่กลับไปแทนคุณมารดา เล่าปี่ก็สงสารร้องไห้
รักชีซี บอกชีซีว่า อันธรรมดาแม่ลูกกันนี้ ก็เหมือนชีวิตเดียวกัน  เมื่อมีเหตุฉะนี้ก็เป็น
ประเพณีบุตรจะสงเคราะห์แก่มารดา ใครห่อนจะอาจทิ้งมารดาเสียได้

คุณธรรม เป็นคำที่ อธิบายยาก เข้าใจง่าย
บุตรเลี้ยงดูมารดา เป็นเรื่องของ คุณธรรม
จับมารดา เป็นตัวประกันข่มขู่บุตร เป็นเรื่อง ไร้คุณธรรม

คำสั่งใด ที่ไร้คุณธรรม คำสั่งนั้น ไม่ควรกระทำ
คำแนะนำใด ที่ไร้คุณธรรม คำแนะนำนั้น ไม่ควรกระทำ
งานใด ที่ไร้คุณธรรม งานนั้น ไม่ควรกระทำ

ไม่ว่าจะต้องการผลลัพธ์ของงานดีเพียงใด กระบวนการ ต้องไม่ ไร้คุณธรรม
กระบวนการที่ไร้คุณธรรม แม้จะส่งผลลัพธ์มากคุณค่า ก็ไม่น่าภาคภูมิใจ ไม่ควรกระทำ

เพื่อรักษาคุณธรรมแล้ว แม้อาจทำให้ผลของงาน ลดประสิทธิภาพลง ลดประสิทธิผลลง ก็พึงยินยอม
เพื่อรักษาคุณธรรมแล้ว แม้อาจทำให้ผลของงาน ลดปริมาณลง ลดคุณภาพลง ก็พึงยินยอม
เพื่อรักษาคุณธรรมแล้ว แม้อาจทำให้มิได้ผลงาน ตามวัตถุประสงค์ ก็พึงยินยอม

เลือกคุณธรรม แม้ไม่ชนะ แต่ไม่มีวันพ่ายแพ้ 


วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เลือกมืด เลือกสว่าง


๖๕

ก็เหมือนออกจากที่สว่างมาเข้าที่มืดหาควรไม่

สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 33

โจโฉไปรับเอามารดาชีซีมาเลี้ยงดู หวังจะให้ชีซีทิ้งเล่าปี่มาอยู่ด้วย เกลี้ยกล่อมมารดาชีซีให้เขียน
จดหมายเรียกลูกมาสวามิภักดิ์กับโจโฉ มารดาชีซีตวาดเอาโจโฉว่า โจโฉเป็นคนชั่ว การจะให้ชีซี
หนีจากเล่าปี่มาอยู่ทำราชการด้วยโจโฉนั้น ก็เหมือนออกจากที่สว่างมาเข้าที่มืดหาควรไม่

องค์กรใดก็ตามมี ธรรมาภิบาล องค์กรนั้นประดุจอยู่ในที่สว่าง ผู้ร่วมงานมีความมั่นใจในหลัก นิติธรรม คุณธรรม องค์กรย่อมเดินรุดหน้า พัฒนาก้าวไกล

องค์กรใดก็ตามมีแต่ อธรรมาภิบาล องค์กรนั้นประดุจอยู่ในถ้ำที่มืดมิด ย่อมมีแต่ความวุ่นวาย ต่างคนต่างมองไม่เห็น ยิ่งเดินก็ยิ่งสับสน องค์กรไม่ก้าวหน้า ซ้ำถอยหลังล่มจม

เมื่อตกอยู่ในถ้ำที่มืดมิด หากพบแสงสว่างแม้เพียงน้อยนิด ย่อมมีความหวังถึงหนทางออก
ถ้าทุกคนเร่งรัดจัดระเบียบ มุ่งหน้าไปสู่แสงสว่าง ความสับสนก็จะพลันหายไป
เมื่อช่วยกันขยับขยายปากทาง แสงก็จะลอดส่องสว่างทั่วถึงทุกคน

หากมีใครไม่ยอมเดินหน้า ทั้งยังกลับหลังชักชวนกันสู่ทิศตรงข้าม หรือกระทั่งหยุดเฉยไม่ยอมเดิน ย่อมพากันหมดโอกาสออกจากถ้ำแน่นอน

ต้องการพ้นจาก อธรรมาภิบาล ทุกคนในองค์กรต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง

หมายเหตุ
เมื่อออกมาพบแสงสว่างแล้ว ไม่บังควรย้อนหลังกลับไปในถ้ำอีก อาจมีใครบางคนคิดปิดปากถ้ำอยู่ เพราะ
หลายคน มีความสุขกับการอยู่ในที่มืด

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

แก้วในตม


๖๔

ประดุจหนึ่งเอาแก้วไปทิ้งไว้ที่ตม สำหรับแต่จะอับไป

สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 33

โจโฉไม่ติดใจที่โจหยินกับลิเตียนไปแพ้้ศึกเล่าปี่ แต่สงสัยว่าใครเป็นผู้คิดอ่านให้เล่าปี่
โจหยินรายงานว่าเป็นตันฮก เทียหยกจึงแจ้งกับโจโฉว่า แท้จริงตันฮกก็คือชีซี เป็นผู้ที่
มีความรู้ความสามารถ เทียหยกออกอุบายให้โจโฉไปรับเอามารดาชีซีมาเลี้ยงดูหวังจะ
ให้ชีซีทิ้งเล่าปี่มาอยู่ด้วยโจโฉ เมื่อพบมารดาชีซี โจโฉปลอบโยนว่า ชีซีเป็นคนดีมีสติ
ปัญญาไปอยู่กับเล่าปี่หาควรไม่ ประดุจหนึ่งเอาแก้วไปทิ้งไว้ที่ตม สำหรับแต่จะอับไป

แก้ว ตามพจนานุกรมหมายถึง หินแข็งใส แลลอดเข้าไปข้างในได้ ได้แก่จำพวก เพชรพลอย

เพชรพลอย ย่อมมีประกายรัศมีสดสวยงดงาม เมื่อยามต้องแสง
เพชรพลอย ย่อมไม่อาจเป็นประกายวาววับ เมื่อไร้ซึ่งแสงส่อง
เพชรพลอย ยิ่งเมื่อนำไปไว้ในที่ตม แม้มีแสงแรงกล้า ก็มีแต่จะอับเฉาไป

คนเก่ง คนดีมีฝีมือ หากถูกแขวนไว้ในที่ไม่มีงานทำ ย่อมไม่อาจแสดงความสามารถ
คนเก่ง ไม่พยายามแสดงความเก่ง ก็ดุจเพชรพลอยที่ฝุ่นละอองปกคลุม
คนเก่ง จึงต้องพยายามแสดงความเก่ง เพื่อได้รับการมอบหมายภารกิจสำคัญ

มีแต่แสงเท่านั้น ที่จะพิสูจน์เพชรแท้พลอยแท้

มีแต่ผลงานเท่านั้น ที่จะพิสูจน์ คนทำงาน


วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

แพ้บ้างชนะบ้าง


๖๓

อันธรรมดาว่าสงครามจะหมายชนะฝ่ายเดียวนั้นไม่ได้
ย่อมแพ้บ้างชนะบ้าง

สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 33

ฝ่ายโจหยินกับลิเตียนแพ้ศึกเล่าปี่กลับไปถึงเมืองฮูโต๋ จึงเข้าไปหาโจโฉ
แจ้งเนื้อความทั้งปวงแล้วก็ร้องไห้วิงวอนขอโทษ โจโฉจึงว่าอย่าวิตกไปเลย
อันธรรมดาว่าสงครามจะหมายชนะฝ่ายเดียวนั้นไม่ได้ ย่อมแพ้บ้างชนะบ้าง

การชนะในศึกสงคราม
อาจเป็นเพราะ กองทัพมีความสามารถ
อาจเป็นเพราะ ศัตรูมีความอ่อนแอ หรือ
อาจเป็นเพราะ สถานการณ์บังเอิญ

การแพ้พ่ายในศึกสงคราม
อาจเป็นเพราะ กองทัพไร้ความสามารถ
อาจเป็นเพราะ ศัตรูมีความเข้มแข็ง หรือ
อาจเป็นเพราะ สถานการณ์บังเอิญ

ไม่มี รบทุกครั้งชนะทุกครั้ง
แม้รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งอาจชนะร้อยครั้ง
แต่หาก รบพันครั้ง รบหมื่นครั้ง ย่อมมีสักครั้งที่พ่ายแพ้
ไม่พ่ายแพ้ด้วยฝีมือ ก็พ่ายแพ้ด้วยสถานการณ์พลิกผัน

การทำงานก็เช่นกัน
ย่อมมีทั้งสำเร็จ และผิดพลาด

ต้องดูที่เนื้องาน และความตั้งใจของผู้ทำงาน



สามก๊ก อ่านสามจบ ยังคบได้

มีคำกล่าวล่ำลือถึงความเป็น สุดยอดตำราทางยุทธศาสตร์ ของ สามก๊ก ว่า อ่านสามจบคบไม่ได้  ฟังดูก็ไม่เชิงว่าจะเป็นการนิยมยกย่องสักเท่าไร เพราะเหตุที่คบไม่ได้ มิใช่ว่าจะเป็นคนเก่งกล้าสามารถ แต่หากจะเป็นคน เจ้าเล่ห์แสนกล ด้วยสามก๊กนั้นเต็มไปด้วยกลอุบาย หรือที่คบไม่ได้อาจเป็นเพราะ ท่าทางจะเป็นคนโง่เหลือกำลัง ที่ทนอ่านอยู่ได้ตั้งสามจบ

ผู้เขียนเองก็นับว่าอ่านสามก๊กมามากกว่าสามจบ ทั้งฉบับ เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ฉบับ วรรณไว พัธโนทัย ฉบับ ยาขอบ และฉบับ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อ่านแล้วก็ลืม ลืมแล้วก็อ่าน อ่านทุกครั้งก็สนุกทุกครั้ง ไม่วิเคราะห์ไม่คิดมากให้เสียเวลา อ่านเอาสนุก อ่านเป็นนิยาย

ก็คนเขียนเขาเขียนเป็นนิยาย จะไปอ่านเอาสาระทำไมกัน หาก หลอกว้านจง ผู้ประพันธ์ รู้เข้าก็คงจะงุนงงเป็นยิ่งนักที่สามก๊กกลายเป็นตำราพิชัยสงคราม ตำราการบริหารเชิงยุทธศาสตร์ ไปได้

ผู้เขียนฟัง อาปา เล่าเรื่องสามก๊กให้ฟังมาตั้งแต่เด็ก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องไหวพริบของตัวละครต่างๆในสามก๊ก ซึ่งก็เป็นเหตุทำให้ผู้เขียนสนใจอ่านสามก๊กเพื่อไปค้นหาข้อความที่อาปาเล่า ฉบับแรกที่อ่านก็เป็นฉบับ เจ้าพระยาพระคลัง(หน) เล่มใหญ่หนาที่บ้านอาโกว 

มานึกได้วันหนึ่งว่า น่าจะลองอ่านสามก๊กใหม่อีกสักหน คราวนี้จะลองอ่านแบบ อ่านเอาเรื่อง อ่านตรงที่คนอื่นเขาไม่อ่านกัน เพื่อยืนยันว่าอ่านอีกกี่จบก็น่าจะ ยังคบได้

วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556

กลัวแพ้ กล้าแพ้


อันการสงครามแม้คิดกลัวแพ้อยู่เหมือนท่านว่าฉะนี้แล้ว
จะทำศึกสืบไปกระไรได้

สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 32

โจหยินไม่ฟังคำเตือนของลิเตียน ยกทัพไปตีเล่าปี่ที่เมืองซินเอี๋ย โดนเล่าปี่ตีทัพ
แตกพ่ายมา ลิเตียนยืนยันให้กลับไปรักษาที่มั่นที่เมืองห้วนเสีย โจหยินยังคงคิด
ยกทัพเข้าปล้นค่ายเล่าปี่ รบพุ่งกันให้สิ้นฝีมือก่อน ลิเตียนไม่เห็นด้วย โจหยินโกรธ
กล่าวหาว่าลิเตียนทำศึกแบบกลัวแพ้จะสู้ได้อย่างไร

เมื่อออกศึก กองทัพต้องฮึกเหิม แม่ทัพต้ององอาจ
แม่ทัพจะองอาจ ต้องมั่นใจในการรบ
จะมั่นใจในการรบ ต้องวางแผนรัดกุม
จะวางแผนได้รัดกุม ข้อมูลต้องสมบูรณ์

ข้อมูลไม่สมบูรณ์ แผนไม่รัดกุม ย่อมไม่อาจมั่นใจ
เมื่อสูญเสียความมั่นใจ ย่อมไร้ความองอาจ กองทัพย่อมอ่อนแอ

การทำงานก็เช่นกัน

ต้องวิเคราะห์ปัจจัยแห่งความสำเร็จ  วางแผน บนข้อมูลที่มีคุณภาพ
เห็นความสำเร็จ ย่อมไม่มีความกังวล
ทั้งยังกล้าเผชิญ หากเกิดภาวะล้มเหลว


วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ไส้ศึก


๖๑

ถ้าจะทำการสงครามพึงให้รู้ลักษณะในไส้ศึกก่อน
จึงจะทำการได้ชัยชนะโดยง่าย


สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 32

โจหยินให้ ลิกอง ลิเซียง ยกทหารไปตีเล่าปี่ที่เมืองซินเอี๋ย จูล่ง กวนอู เตียวหุย สังหาร ลิกอง ลิเซียง
โจหยินคิดยกทัพบุกเล่าปี่ให้หายแค้น แต่ลิเตียนเตือนสติโจหยินว่า ถ้าจะทำการสงคราม
พึงให้รู้ลักษณะในไส้ศึกก่อน จึงจะทำการได้ชัยชนะโดยง่าย

ไส้ศึก คือ ผู้ที่นําความลับในหมู่ที่ตัวร่วมด้วยไปบอกฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์

การทำศึกสงคราม ต้องส่งคนเข้าไปเป็น ไส้ศึก ในกองทัพฝ่ายตรงข้าม
ไส้ศึกมีหน้าที่สืบหา ตื้นลึกหนาบาง ของข้าศึก

ไม่รู้ ตื้นลึกหนาบางของข้าศึก ยากที่จะรบชนะ
ปล่อยให้ข้าศึกรู้ตื้นลึกหนาบาง โอกาสของความพ่ายแพ้

การทำงาน ต้องรู้ ตื้นลึกหนาบาง ของ ผู้ร่วมงาน
การมอบหมายภารกิจจึงจะมุ่งสู่ความสำเร็จ

หาก ให้ผู้ใดล่วงรู้ ตื้นลึกหนาบาง
ที่ดูลึกแท้จริงคือตื้น ที่ดูหนาแท้จริงคือบาง
เมื่อนั้นก็เท่ากับ แพ้พ่ายศึก


วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556

คนดี สู่สังคม


ม้านี้ลักษณะชื่อเต๊กเลา มีกำลังแลฝีเท้ารวดเร็วก็จริง
แต่ทว่ามักเกิดอันตรายแก่เจ้าของ...ซึ่งมิให้มีอันตราย
ไปภายหน้านั้น ผู้ใดซึ่งมิได้ชอบใจท่าน ท่านจงเอาม้านี้
ไปให้ขี่ ก็จะมีอันตรายตายไปก่อน แล้วท่านจึงค่อยกลับ
เอามาขี่อีกก็จะมีความเจริญต่อไป หาความอันตรายมิได้


สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 32

ตันฮกวางแผนทำเพลงเรียกร้องความสนใจจากเล่าปี่ เล่าปี่ชักชวนตันฮกให้อยู่ด้วย
จะตั้งให้เป็นที่ปรึกษา ตันฮกลองน้ำใจเล่าปี่ ให้เล่าปี่แก้เคล็ดม้าเต๊กเลาที่เล่าปี่ใช้อยู่ว่า
ม้าเต๊กเลามักเป็นอันตรายแก่เจ้าของ ให้เอาไปให้คนที่ไม่ชอบขี่รับเคราะห์ไปก่อน
แล้วจึงเอากลับมาใช้

ผู้บริหารที่ดี ย่อมไม่ผลักไส ผู้ปฏิบัติที่ไม่มีฝีมือ ให้พ้นไปจากการกำกับของตน
ผู้บริหารที่ดี ย่อมไม่ผลักไส ผู้ปฏิบัติที่ไม่มีฝีมือ ให้ไปเป็นภาระผู้อื่น

หากแต่
ผู้บริหารที่ดี ต้องพยายามพัฒนาผู้ปฏิบัติที่ไม่มีฝีมือ ให้กลายเป็นผู้มีฝีมือ

ส่งสิ่งไม่ดี ให้ผู้อื่น เรียกว่า ไร้คุณธรรม
ส่งความไม่ดี ให้ผู้อื่น เรียกว่า ไร้คุณธรรม
ส่งคนไม่ดี ให้ผู้อื่น ก็เรียกว่า ไร้คุณธรรม
ส่งคนไม่ดีให้ประชาชน ยิ่งกว่า ไร้คุณธรรม
ร่วมกันคัดสรร คนดี สู่สังคม


วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2556

แบกน้ำหนัก



ถ้ากบทูจะหัก จะเอาไม้อันน้อยค้ำ มิอาจจะทานกำลังไว้ได้


สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 32

เล่าปี่หนีจากเล่าเปียวไปถึงเมืองซินเอี๋ยแล้ว จึงเขียนหนังสือให้ซุนเขียนนำไปแจ้ง
ให้เล่าเปียวทราบว่าตนถูกชัวมอไล่ล่า เล่าเปียวจึงให้เล่ากี๋ไปกับซุนเขียนเพื่อขอขมา
เล่าปี่ออกมาส่งเล่ากี๋ ขณะกลับเข้าเมืองซินเอี๋ย เล่าปี่พบตันฮก ทำเพลงใจความว่า
แผ่นดินจะกลับ ก็เหมือนไฟดับสิ้นแสง ถ้ากบทูจะหัก จะเอาไม้อันน้อยค้ำ มิอาจจะ
ทานกำลังไว้ได้ ชาวบ้านนอกผู้มีปัญญา ย่อมจะแสวงหานายที่มีน้ำใจโอบอ้อมอารี


กบทู หมายถึง สันหลังคาเรือน
สันหลังคาเรือนจะหัก เอาไม้อันเล็กๆไปค้ำ หลังคาเรือนทั้งหลังก็คงพังครืนลงมา

นักมวยรุ่นเล็ก หากถูกส่งไปชกรุ่นใหญ่ แบกทั้งน้ำหนัก แบกทั้งประสบการณ์ โชคดีไม่โดนน็อคก็ต้องแพ้คะแนน

การใช้คนทำงานก็เช่นกัน
งานบางงาน ต้องการผู้รับผิดชอบที่มีทั้งกำลังความสามารถและสติปัญญา
หากมอบหมายผู้ด้อยทั้งความคิดและประสบการณ์ งานชิ้นนั้นมีแต่จะล้มเหลว

ธรรมชาติของคน เมื่อทำงานหนึ่งไม่สำเร็จ มักจะหางานที่ใหญ่กว่ามาทำเพื่อชดเชย หากองค์กรใดยอมให้คนทำงานเช่นนี้ ก็จะยิ่งล่มสลายทั้งองค์กร

หากเคยทำงานใหญ่ล้มเหลว ต้องกลับมาเริ่มที่งานเล็ก เพื่อสร้างกำลังและความมั่นใจ

กลับมาชกรุ่นเดิม เมื่อชนะจนมั่นใจ แล้วค่อยทำน้ำหนักขยับขึ้นรุ่นใหญ่ใหม่

หมายเหตุ
แนวคิดดังกล่าวได้จาก ลูกชาย (พีรวิชญ์ ธีระกาญจน์) เรียกทางเทคนิกว่า Spin Down & Spin Up


วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

ดินสอ ยางลบ ปากกา


เคยอ่านเจอมาว่า
เหตุผลที่ ดินสอทุกแท่งต้องมียางลบ ก็เพราะ
คนเราทำผิดได้

หากนั่นเป็นความจริง
ทำไม ปากกาไม่มียางลบ

ดินสอ เราใช้ตอนเป็นเด็ก
เพราะ เด็กเขียนผิดบ่อย ดินสอจึงต้องมียางลบ
เพราะ เด็กตัดสินใจไม่รอบคอบ ไม่มั่นคง โลเล

เมื่อโตขึ้น เราเปลี่ยนมาใช้ปากกา
ปากกา ไม่มียางลบ
ผู้ใหญ่ จึงต้องตัดสินใจให้รอบคอบ มั่นคง ไม่โลเล

ดินสอให้เด็กใช้
ปากกาให้ผู้ใหญ่ใช้

ผู้ใหญ่หลายคนใช้ดินสอ


วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556

คนดี คนพาล



แลจะใช้สอยคนดีซึ่งมีสติปัญญานั้น
ก็ไม่รู้จักการที่จะบังคับบัญชา
แลกำจัดคนพาลให้ปราศจากนั้นก็มิได้

สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 32

เมื่อเล่าปี่หนีจากเล่าเปียวไปพบกับสุมาเต๊กโช แอบฟังชีซีปรึกษากับสุมาเต๊กโชความว่า
ชีซีคาดหวังว่าเล่าเปียวเป็นคนดี จึงไปฝากตัวทำราชการด้วย แต่ก็ผิดหวัง ด้วยเล่าเปียวนั้น
จะใช้สอยคนดีซึ่งมีสติปัญญานั้น ก็ไม่รู้จักการที่จะบังคับบัญชา แลกำจัดคนพาลให้ปราศจากนั้นก็มิได้

ทุกองค์กรย่อมประกอบด้วย คนดี และ คนพาล

ผู้บริหารมืออาชีพ ต้องสามารถบริหารบนทรัพยากรเท่าที่มีอยู่ได้
ผู้บริหารมือสมัครเล่น ต้องการแต่คนดี มีจำนวนบุคลากรเพียงพอ มีงบประมาณ มีทรัพยากรครบถ้วน

การบริหารสมัครเล่น เอาใครมาเล่นก็ได้

ผู้บริหารมืออาชีพ จึงสามารถเลือกใช้ได้ทั้ง
ความดีในคนดี
ความดีในคนพาล
ความพาลในคนพาล
และ ความพาลในคนดี


วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556

นักคิด นักทำ



สิบคนจะหาผู้กล้าหาญได้คนหนึ่ง
ร้อยคนจะจัดหาผู้มีสติปัญญาได้คนหนึ่ง

สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 32

เล่าปี่อาศัยอยู่กับเล่าเปียวที่เมืองเกงจิ๋ว พลั้งปากวิพากษ์การปกครองจนเล่าเปียว
เกิดความคลางแคลงใจ ชัวมอน้องภรรยาเล่าเปียวคิดวางแผนทำร้ายเล่าปี่ เล่าปี่รู้ตัว
ควบม้าเต๊กเลาหนีออกจากเมืองเกงจิ๋วตามลำพัง หลงทางไปจนได้พบกับสุมาเต๊กโช
สุมาเต๊กโชวิจารณ์คนรอบข้างเล่าปี่ว่า ยังไม่มีใคเป็นผู้มีสติปัญญาที่แท้จริง
การหาผู้กล้านั้นไม่ยาก แต่หาผู้มีสติปัญญานั้นไม่ง่าย
สิบคนจะหาผู้กล้าหาญได้คนหนึ่ง ร้อยคนจะจัดหาผู้มีสติปัญญาได้คนหนึ่ง 


นักมวย นักกีฬา หากมีร่างกายใหญ่โต มีแต่พละกำลัง แต่ไม่มีสมอง
ทำได้ก็แต่ตามคำสั่ง ไม่รู้จักแก้สถานการณ์
โอกาสแพ้พ่ายย่อมมากกว่าชนะ

องค์กร แม้มีคนทำงานมากมาย แต่เต็มไปด้วย นักทำ ไม่มี นักคิด 
องค์กร ย่อมทำงานสำเร็จบรรลุเป้าหมายขององค์กรได้ยากยิ่ง

นักทำ ชอบเรียกร้อง หาไม่ยาก
นักคิด ชอบร้องเรียก หาไม่ง่าย

นักทำ สร้างได้ด้วยผู้อื่น
นักคิด สร้างได้ด้วยตนเอง


วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556

มีดีมีเลว



เหตุว่าหนีนายมาแล้ว
มิหนำซ้ำจะมาให้ผู้อื่นตั้งแต่งตัวเป็นดีนั้นมิชอบ 

สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 30

โจโฉได้ตัว เตียนติ๋ว ทหารกองตระเวนของอ้วนเสี้ยวหนีทัพมาอยู่ที่เมืองเอ๊กจิ๋ว รู้เส้นทางไปหัวเมืองตะวันตก จึงให้เตียนติ๋วเป็นนายทหารสำหรับนำทางตีเมืองหลิวเซียได้ จะตั้งให้เตียนติ๋วอยู่รักษาเมือง แต่เตียนติ๋วร้องไห้บอกว่าตนเป็น คนหนีนาย จะมาให้ผู้เป็นศัตรูของนายปูนบำเหน็จนั้นมิควร โจโฉได้ฟังก็มีความยินดี จึงตั้งเตียนติ๋วไว้เป็นที่ปรึกษา


คนเป็นนาย จะดีจะเลวก็เป็นนาย
คนเป็นลูกน้อง จะดีจะเลวก็เป็นลูกน้อง
เคยอุปถัมภ์ค้ำชูกันมา ไม่มากก็น้อย

เมื่อต้องจากกัน ต้องยกย่อง ดูแล ในส่วนของ ความดี ที่มีต่อกัน

คนมีคุณธรรม ใช้เหตุผล แยกแยะความดีความเลว
คนไร้คุณธรรม ไม่แยกแยะความดีความเลว

สังคมวุ่นวายสับสน เพราะ คนไร้คุณธรรม


วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556

รุกหน้า


การสิ่งใดเห็นได้การแล้ว ก็ให้เร่งคิดอ่านทำการไปกว่าจะสำเร็จ


สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 30

โจโฉปราบปรามไพร่บ้านพลเมืองให้อยู่เป็นปรกติแล้ว จึงยกกองทัพไปตีเอาหัวเมืองฝ่ายตะวันตก
ทางนั้นกันดารนักโจโฉเห็นว่าทหารได้รับความลำบากใคร่จะยกทัพกลับ เมื่อปรึกษากุยแกซึ่งนอน
ป่วยมาบนเกวียน กุยแกตอบว่าการสิ่งใดเห็นได้การแล้ว ก็ให้เร่งคิดอ่านทำการไปกว่าจะสำเร็จ
เมื่อยกทัพมาขนาดนี้แล้ว ก็ควรจัดทหารที่กล้าแข็งรุกหน้าต่อไป



การทำงาน ต้องวิเคราะห์สถานการณ์ ตั้งแต่ต้นจนตลอด

หากมีโอกาสแห่งความสำเร็จ แม้สร้างความลำบากยากแค้น ก็ต้องมุ่งมั่นก้าวต่อไป
หากไม่มีโอกาสแห่งความสำเร็จ พึงอย่าดันทุรัง

ความสำคัญอยู่ที่การวิเคราะห์ ต้องปราศจาก อคติ

การวิเคราะห์ด้วยอคติ
อาจพบแต่ โอกาสแห่งความสำเร็จ ปลอมๆ

การวิเคราะห์ด้วยอคติ
อาจพบแต่ โอกาสแห่งความไม่สำเร็จ ปลอมๆ


วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556

หมอรักษาโรค



เหมือนหนึ่งคนไข้หนักหมอคาดวันตายอยู่แล้ว
จำจะคิดอ่านเอายาทั้งปวงประสมกันเข้าวางดู
อีกครั้งหนึ่ง แม้พอชอบ โรคก็จะคลาย หาไม่ก็จะตาย

สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 30

อ้วนถำพยายามไปอ่อนน้อมต่อโจโฉ แต่โจโฉไม่ยอมรับ กัวเต๋าให้ข้อคิดกับอ้วนถำว่า
สถานะของอ้วนถำเหมือนคนไข้หนักที่หมอกำหนดวันตาย หากจะลองหมอใหม่ยาใหม่
ก็ไม่มีอะไรจะเสีย สู้รวบรวมกองทหารไปรบกับโจโฉอีกครั้ง

หมอ รักษาโรค เพื่่อหวังให้คนไข้หายจากโรค
หมอ รักษาโรค ตั้งแต่โรคเล็กน้อยไปจนโรคร้ายอาการสาหัส
หมอ อดหลับอดนอน เพื่อรักษาคนไข้ให้พ้นจากทุกข์ทรมาน

ตราบใดที่ผู้ป่วยยังไม่หายจากโรค หมอย่อมไม่ยอมละมือ

เมื่อมีหนทางใหม่ใด ที่จะช่วยให้คนไข้หายจากโรคที่เป็นอยู่
หมอย่อมไม่ละโอกาส ที่แม้จะมีเพียงน้อยนิด

ทำงานให้เหมือนหมอรักษาโรค