วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2555

ทารก


อุปมาเหมือนทารก
ถ้ามารดามิให้นมกินแล้ว ทารกนั้นก็จะสิ้นแรงไป


สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 6

อ้วนเสี้ยวได้รับการยกย่องจากทัพหัวเมืองทั้งหลายให้เป็นแม่ทัพใหญ่ กอบกู้เอกราชจากตั๋งโต๊ะ
แต่ไม่สามารถผนึกกำลังรวมตัวกันได้ กลับแตกแยกชิงดีชิงเด่นกัน
ครั้งเมื่อแย่งชิงตราหยก อ้วนเสี้ยวเห็นทัพหัวเมืองแก่งแย่งทำร้ายกัน
อ้วนเสี้ยวจึงนำทัพไปพักอยู่ที่เมืองโห้ลาย ฮันฮกเจ้าเมืองกิจิ๋วทราบข่าวจึงจัดแจงเสบียงส่งไปให้
ต่อมาอ้วนเสี้ยวคิดยึดเมืองกิจิ๋ว ลอบให้กองซุนจ้านยกทัพไปตีกิจิ๋ว
พื่อให้ฮันฮกมาเชื้อเชิญตนไปช่วยรักษาเมือง
เก๋งบูเตือนฮันฮกว่า อ้วนเสี้ยวเป็นคนสิ้นคิด ที่อยู่ได้เพราะฮันฮกคอยส่งเสบียงให้

ทารก มีชีวิตอยู่ได้ก็จากการเลี้ยงดูของมารดา หากมารดาไม่มีนมให้กิน หรือมีแต่ไม่ให้กิน ทารกก็จะไม่สามารถมีชีวิตยืนยาวไปได้ และสิ้นชีวิตไป
เว้นแต่ ใครจะเก็บมาเลี้ยงป้อนน้ำป้อนนมให้แทนมารดา

การเติบโตเป็นหัวหน้าคนต้องฝึกฝนงานทุกระดับและค่อยๆไต่เต้า เมื่อเป็นหัวหน้าจึงมีความสามารถทำทุกอย่างได้ สั่งการได้ สอนงานได้ เมื่อจำเป็นยังสามารถลงมือทำเองได้

เมื่อทำงาน ต้องไม่เพียงหวังพึ่งพาผู้อื่นเท่านั้น
หากผู้อื่นจับได้ว่า เราไม่มีความสามารถใด ต้องอาศัยการพึ่งพาอยู่เป็นนิจ
เพียงแค่เขาหยุดให้การช่วยเหลือ งานทั้งหมดของเราก็จะจบสิ้นลง

คนที่ทำตัวต้องพึ่งพาคนอื่นตลอดเวลา เหมือนทารกต้องพึ่งนมมารดา เรียกว่า ลูกแหง่

อย่าทำตัวเป็นลูกแหง่

อย่าให้ใครเห็นว่าเป็นลูกแหง่



สามก๊ก อ่านสามจบ ยังคบได้

มีคำกล่าวล่ำลือถึงความเป็น สุดยอดตำราทางยุทธศาสตร์ ของ สามก๊ก ว่า อ่านสามจบคบไม่ได้  ฟังดูก็ไม่เชิงว่าจะเป็นการนิยมยกย่องสักเท่าไร เพราะเหตุที่คบไม่ได้ มิใช่ว่าจะเป็นคนเก่งกล้าสามารถ แต่หากจะเป็นคน เจ้าเล่ห์แสนกล ด้วยสามก๊กนั้นเต็มไปด้วยกลอุบาย หรือที่คบไม่ได้อาจเป็นเพราะ ท่าทางจะเป็นคนโง่เหลือกำลัง ที่ทนอ่านอยู่ได้ตั้งสามจบ

ผู้เขียนเองก็นับว่าอ่านสามก๊กมามากกว่าสามจบ ทั้งฉบับ เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ฉบับ วรรณไว พัธโนทัย ฉบับ ยาขอบ และฉบับ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อ่านแล้วก็ลืม ลืมแล้วก็อ่าน อ่านทุกครั้งก็สนุกทุกครั้ง ไม่วิเคราะห์ไม่คิดมากให้เสียเวลา อ่านเอาสนุก อ่านเป็นนิยาย
ก็คนเขียนเขาเขียนเป็นนิยาย จะไปอ่านเอาสาระทำไมกัน หาก หลอกว้านจง ผู้ประพันธ์ รู้เข้าก็คงจะงุนงงเป็นยิ่งนักที่สามก๊กกลายเป็นตำราพิชัยสงคราม ตำราการบริหารเชิงยุทธศาสตร์ ไปได้

ผู้เขียนฟัง อาปา เล่าเรื่องสามก๊กให้ฟังมาตั้งแต่เด็ก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องไหวพริบของตัวละครต่างๆในสามก๊ก ซึ่งก็เป็นเหตุทำให้ผู้เขียนสนใจอ่านสามก๊กเพื่อไปค้นหาข้อความที่อาปาเล่า ฉบับแรกที่อ่านก็เป็นฉบับ เจ้าพระยาพระคลัง(หน) เล่มใหญ่หนาที่บ้านอาโกว 

มานึกได้วันหนึ่งว่า น่าจะลองอ่านสามก๊กใหม่อีกสักหน คราวนี้จะลองอ่านแบบ อ่านเอาเรื่อง อ่านตรงที่คนอื่นเขาไม่อ่านกัน เพื่อยืนยันว่าอ่านอีกกี่จบก็น่าจะ ยังคบได้






วันเสาร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2555

เด็กเลี้ยงโค




ความคิดท่านน้อยนัก อุปมาดังเด็กเลี้ยงโค


สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 2

เมื่อตันหลิมท้วงโฮจิ๋นไม่ให้นำทัพหัวเมืองเข้ามาจับขันทีทั้งสิบฆ่าทิ้งเสียตามคำแนะนำของอ้วนเสี้ยว
โฮจิ๋นเย้ยเยาะความคิดของตันหลิมว่า ดังเด็กเลี้ยงโค 


จะทำการใหญ่....อุปมาดังคิดกับเด็กเลี้ยงโค

สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 5

เมื่อโจโฉเสนอให้อ้วนเสี้ยวไล่ล่าตามจับตั๋งโต๊ะที่กำลังเสียทียกทัพหนีขณะย้ายเมืองหลวง
แต่อ้วนเสี้ยวห่วงว่าไพร่พลของตนกำลังอิดโรยขอให้ทหารได้พักเสียก่อน
โจโฉคิดดูถูกอ้วนเสี้ยวอยู่ในใจว่า ดังเด็กเลี้ยงโค 

คงไม่ใช่การดูถูกว่าเด็กเลี้ยงวัวว่าโง่เขลา แต่เด็กเลี้ยงวัวย่อมไม่มีวัตถุประสงค์อื่นใด นอกจากเลี้ยงวัว
เพียงแค่เฝ้าวัวให้อยู่ในสายตาเท่านั้น อื่นๆก็ไม่ต้องทำอะไร
วัวก็ตัวออกโต เดินไปไหนก็เห็นแต่ไกล ทั้งมักวนเวียนหากินได้แค่หลักที่ผูกไว้
หลับบ้างตื่นบ้าง ปั้นวัวปั้นควายบ้าง ยิงนกตกปลาบ้าง ก็ได้ ไม่จำต้องคิดการอื่นใหญ่โตอันใด

เป็นผู้บริหาร เป็นผู้นำ ต้องมีวิสัยทัศน์ คือรู้จักคิดไปข้างหน้า ทั้งทางกว้าง ทางลึก และทางยาว
อย่าไปมัวคิดอยู่เหมือนเด็กเลี้ยงวัว วนเวียนอยู่แค่หลักผูกวัว
ทั้งคิดเล็กคิดน้อย การใหญ่จะสำเร็จได้อย่างไร



สามก๊ก อ่านสามจบ ยังคบได้

มีคำกล่าวล่ำลือถึงความเป็น สุดยอดตำราทางยุทธศาสตร์ ของ สามก๊ก ว่า อ่านสามจบคบไม่ได้  ฟังดูก็ไม่เชิงว่าจะเป็นการนิยมยกย่องสักเท่าไร เพราะเหตุที่คบไม่ได้ มิใช่ว่าจะเป็นคนเก่งกล้าสามารถ แต่หากจะเป็นคน เจ้าเล่ห์แสนกล ด้วยสามก๊กนั้นเต็มไปด้วยกลอุบาย หรือที่คบไม่ได้อาจเป็นเพราะ ท่าทางจะเป็นคนโง่เหลือกำลัง ที่ทนอ่านอยู่ได้ตั้งสามจบ

ผู้เขียนเองก็นับว่าอ่านสามก๊กมามากกว่าสามจบ ทั้งฉบับ เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ฉบับ วรรณไว พัธโนทัย ฉบับ ยาขอบ และฉบับ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อ่านแล้วก็ลืม ลืมแล้วก็อ่าน อ่านทุกครั้งก็สนุกทุกครั้ง ไม่วิเคราะห์ไม่คิดมากให้เสียเวลา อ่านเอาสนุก อ่านเป็นนิยาย
ก็คนเขียนเขาเขียนเป็นนิยาย จะไปอ่านเอาสาระทำไมกัน หาก หลอกว้านจง ผู้ประพันธ์ รู้เข้าก็คงจะงุนงงเป็นยิ่งนักที่สามก๊กกลายเป็นตำราพิชัยสงคราม ตำราการบริหารเชิงยุทธศาสตร์ ไปได้

ผู้เขียนฟัง อาปา เล่าเรื่องสามก๊กให้ฟังมาตั้งแต่เด็ก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องไหวพริบของตัวละครต่างๆในสามก๊ก ซึ่งก็เป็นเหตุทำให้ผู้เขียนสนใจอ่านสามก๊กเพื่อไปค้นหาข้อความที่อาปาเล่า ฉบับแรกที่อ่านก็เป็นฉบับ เจ้าพระยาพระคลัง(หน) เล่มใหญ่หนาที่บ้านอาโกว 

มานึกได้วันหนึ่งว่า น่าจะลองอ่านสามก๊กใหม่อีกสักหน คราวนี้จะลองอ่านแบบ อ่านเอาเรื่อง อ่านตรงที่คนอื่นเขาไม่อ่านกัน เพื่อยืนยันว่าอ่านอีกกี่จบก็น่าจะ ยังคบได้





วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2555

โค่นต้นไม้ทำไร่



๑๑
อุปมาเหมือนโค่นต้นไม้ทำไร่
จะคิดเสียดายต้นไม้อยู่แล้วก็ไม่ได้ข้าวกิน


สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 5

ตั๋งโต๊ะดำริจะย้ายเมืองหลวงจากเมืองลกเอี๋ยงไปเมืองเตียงฮัน
ขุนนางใหญ่น้อยพากันท้วงติง เกรงสิ้นเปลืองท้องพระคลัง เกรงเดือดร้อนประชาราษฎร
แต่ตั๋งโต๊ะยังยืนยันจะไปสร้างเมืองหลวงใหม่ แจ้งขุนนางทั้งปวงไม่ให้ยึดติดเมืองหลวงเดิม

เมื่อคิดทำการใหญ่ จำเป็นที่ต้องตัดใจสูญเสียบางส่วน

เปรียบดังจะทำไร่ทำนา ก็ต้องตัดต้นไม้ใหญ่ออก จึงจะมีที่ทำนา
จะสร้างเขื่อนก็ต้องยอมสูญเสียป่า
ทำการใหญ่ไม่ควรตระหนี่ ฆ่าควายอย่าเสียดายเกลือ

เมื่อต้องการผลงาน บางครั้งองค์กรจึงจำเป็นต้องจ่ายงบประมาณจำนวนมาก

เมื่อต้องการผลงาน บางครั้งองค์กรจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนบุคลากร

อย่ามัวแต่เสียดาย หากไม่ยอมเสียสิ่งใดเลย จะได้สิ่งที่ดีกว่ามาได้อย่างไร
เอาเลยครับ ลุยเลยครับ



สามก๊ก อ่านสามจบ ยังคบได้

มีคำกล่าวล่ำลือถึงความเป็น สุดยอดตำราทางยุทธศาสตร์ ของ สามก๊ก ว่า อ่านสามจบคบไม่ได้  ฟังดูก็ไม่เชิงว่าจะเป็นการนิยมยกย่องสักเท่าไร เพราะเหตุที่คบไม่ได้ มิใช่ว่าจะเป็นคนเก่งกล้าสามารถ แต่หากจะเป็นคน เจ้าเล่ห์แสนกล ด้วยสามก๊กนั้นเต็มไปด้วยกลอุบาย หรือที่คบไม่ได้อาจเป็นเพราะ ท่าทางจะเป็นคนโง่เหลือกำลัง ที่ทนอ่านอยู่ได้ตั้งสามจบ

ผู้เขียนเองก็นับว่าอ่านสามก๊กมามากกว่าสามจบ ทั้งฉบับ เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ฉบับ วรรณไว พัธโนทัย ฉบับ ยาขอบ และฉบับ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อ่านแล้วก็ลืม ลืมแล้วก็อ่าน อ่านทุกครั้งก็สนุกทุกครั้ง ไม่วิเคราะห์ไม่คิดมากให้เสียเวลา อ่านเอาสนุก อ่านเป็นนิยาย
ก็คนเขียนเขาเขียนเป็นนิยาย จะไปอ่านเอาสาระทำไมกัน หาก หลอกว้านจง ผู้ประพันธ์ รู้เข้าก็คงจะงุนงงเป็นยิ่งนักที่สามก๊กกลายเป็นตำราพิชัยสงคราม ตำราการบริหารเชิงยุทธศาสตร์ ไปได้

ผู้เขียนฟัง อาปา เล่าเรื่องสามก๊กให้ฟังมาตั้งแต่เด็ก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องไหวพริบของตัวละครต่างๆในสามก๊ก ซึ่งก็เป็นเหตุทำให้ผู้เขียนสนใจอ่านสามก๊กเพื่อไปค้นหาข้อความที่อาปาเล่า ฉบับแรกที่อ่านก็เป็นฉบับ เจ้าพระยาพระคลัง(หน) เล่มใหญ่หนาที่บ้านอาโกว 

มานึกได้วันหนึ่งว่า น่าจะลองอ่านสามก๊กใหม่อีกสักหน คราวนี้จะลองอ่านแบบ อ่านเอาเรื่อง อ่านตรงที่คนอื่นเขาไม่อ่านกัน เพื่อยืนยันว่าอ่านอีกกี่จบก็น่าจะ ยังคบได้





วันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2555

แทงข้างหลัง


เมื่อตั๋งโต๊ะถูกรุมลอบสังหาร ตั๋งโต๊ะร้องเรียกให้ลิโป้ ผู้เป็นลูกเลี้ยงช่วย
ลิโป้โผล่ออกมาบอกว่า ตัวเป็นศัตรูราชสมบัติ เป็นไฉนมาร้องให้กูช่วย แล้วก็เอาทวนแทงตั๋งโต๊ะตาย
ก่อนหน้ามาอยู่กับตั๋งโต๊ะ ลิโป้ก็ใช้กระบี่ฟันเต๊งหงวนพ่อเลี้ยงถึงแก่ความตาย เพื่อตัดเอาหัวมาสวามิภักดิ์กับตั๋งโต๊ะ

เมื่อจูเลียส ซีซาร์ ถูกลอบสังหาร เต็มไปด้วยความประหลาดใจที่เห็น บรูตุส ลูกเลี้ยงเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้วางแผนทรยศ กล่าวคำพูดสุดท้ายออกมาว่า เจ้าก็ด้วย ลูกชายของข้า ก่อนโดนดาบคู่มือของบรูตุสแทงทะลุผ่านลำคอล้มลงขาดใจตาย

ลิโป้ และ บรูตุส ถูกจดจำและถูกประนามไปตลอดกาล

หากจะคิดคดทรยศใคร ต้องปิดให้มิดชิด
เพราะหากวันใดความจริงเปิดเผย แม้ตายลงอเวจีไปแล้ว
ผู้คนก็ยังกล่าวขานเลื่องลือดัง ลิโป้ กับ บรูตุส

ดังนั้น
อย่าทรยศใคร
อย่าหักหลังใคร
อย่าแทงข้างหลังใคร

เขียนเหมือนไปโดนใครแทงข้างหลังมา





วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555

รื้อแล้วสร้าง



อุปมาดังเรือน ถ้าจะรื้อลงนั้นง่าย ซึ่งจะปลูกสร้างนั้นยากนัก


สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 5

เมื่อตั๋งโต๊ะยกทัพเข้ามาปราบขันทีทั้งสิบตามคำเชิญของโฮจิ๋น ด้โอกาสยึดอำนาจ
ถอดหองจูเปียนออกจากราชสมบัติ แล้วยกหองจูเหียบขึ้นครองราชสมบัติ ถวายพระนามพระเจ้าเหี้ยนเต้ 
ตั๋งโต๊ะตั้งตัวเป็นพระยามหาอุปราช ต่อมาดำริจะย้ายเมืิองหลวงจากเมืองลกเอี๋ยงไปเมืองเตียงฮัน
เอียวปิวเกรงว่าประชาราษฎรจะได้รับความเดือดร้อน จึงกล่าวเตือนตั๋งโต๊ะให้นึกถึงคำโบราณ

แต่ละองค์กรย่อมมีความเป็นมา แนวคิดแนวปฏิบัติในองค์กรก็ย่อมต้องมีที่มา
ก่อนจะเปลี่ยนแปลงสิ่งเก่าที่มีผู้วางระบบไว้ก่อนหน้า จึงควรศึกษาให้รอบคอบ
รื้อระบบเดิมทิ้งนั้นง่ายดายยิ่ง แต่การสร้างระบบใหม่ยากเย็นแสนเข็น

สร้างบ้านใหม่หนึ่งหลัง ใช้ทั้งวัสดุ อุปกรณ์ และเวลา
รื้อบ้านทิ้ง ระหว่างรอสร้างบ้านใหม่จะไปอยู่ทีไหน

ทำไมไม่ลองใช้วิธี ดีดบ้าน บ้านต่ำดีดให้สูงขึ้นหนีน้ำได้ ขณะที่ยังมีที่พักพิงในระหว่างดีดบ้าน

เสริมระบบเดิมให้เข้มแข็ง แข็งแรง ทำงานต่อยอดจากของเดิม

อ้อ ระวัง ผู้รับเหมาทิ้งงาน บ้านลอยเท้งเต้ง ระบบปรับไปแล้ว คนปรับหนีไปแล้ว กินไม่เข้าคายไม่ออก


สามก๊ก อ่านสามจบ ยังคบได้

มีคำกล่าวล่ำลือถึงความเป็น สุดยอดตำราทางยุทธศาสตร์ ของ สามก๊ก ว่า อ่านสามจบคบไม่ได้  ฟังดูก็ไม่เชิงว่าจะเป็นการนิยมยกย่องสักเท่าไร เพราะเหตุที่คบไม่ได้ มิใช่ว่าจะเป็นคนเก่งกล้าสามารถ แต่หากจะเป็นคน เจ้าเล่ห์แสนกล ด้วยสามก๊กนั้นเต็มไปด้วยกลอุบาย หรือที่คบไม่ได้อาจเป็นเพราะ ท่าทางจะเป็นคนโง่เหลือกำลัง ที่ทนอ่านอยู่ได้ตั้งสามจบ

ผู้เขียนเองก็นับว่าอ่านสามก๊กมามากกว่าสามจบ ทั้งฉบับ เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ฉบับ วรรณไว พัธโนทัย ฉบับ ยาขอบ และฉบับ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อ่านแล้วก็ลืม ลืมแล้วก็อ่าน อ่านทุกครั้งก็สนุกทุกครั้ง ไม่วิเคราะห์ไม่คิดมากให้เสียเวลา อ่านเอาสนุก อ่านเป็นนิยาย
ก็คนเขียนเขาเขียนเป็นนิยาย จะไปอ่านเอาสาระทำไมกัน หาก หลอกว้านจง ผู้ประพันธ์ รู้เข้าก็คงจะงุนงงเป็นยิ่งนักที่สามก๊กกลายเป็นตำราพิชัยสงคราม ตำราการบริหารเชิงยุทธศาสตร์ ไปได้

ผู้เขียนฟัง อาปา เล่าเรื่องสามก๊กให้ฟังมาตั้งแต่เด็ก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องไหวพริบของตัวละครต่างๆในสามก๊ก ซึ่งก็เป็นเหตุทำให้ผู้เขียนสนใจอ่านสามก๊กเพื่อไปค้นหาข้อความที่อาปาเล่า ฉบับแรกที่อ่านก็เป็นฉบับ เจ้าพระยาพระคลัง(หน) เล่มใหญ่หนาที่บ้านอาโกว 

มานึกได้วันหนึ่งว่า น่าจะลองอ่านสามก๊กใหม่อีกสักหน คราวนี้จะลองอ่านแบบ อ่านเอาเรื่อง อ่านตรงที่คนอื่นเขาไม่อ่านกัน เพื่อยืนยันว่าอ่านอีกกี่จบก็น่าจะ ยังคบได้





วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2555

หมีกับเสือ



ซึ่งจะฆ่าหมีเสียตัวหนึ่ง เสือจะร้ายขึ้น

สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 4

ทหารอ้วนสุดคนหนึ่งว่าแก่อ้วนสุดว่า ซุนเกี๋ยนอุปมาดังเสือตัวหนึ่ง แลตั๋งโต้ะอุปมาดังหมี
หากอ้วนสุดยกทัพไปช่วยซุนเกี๋ยนฆ่าตั๋งโต๊ะ ซุนเกี๋ยนจู่ๆก็จะผงาดขึ้นมา

ไม่ว่า หมี หรือ เสือ ก็เป็น สัตว์ร้ายที่ไว้วางใจไม่ได้
แค่เจอตัวใดตัวหนึ่งก็นับว่าโชคร้าย
การเจอพร้อมกันสองตัว อาจกลับกลายเป็นโชคดี
ที่สัตว์ร้ายทั้งสองจะได้ห้ำหั่นกันเอง เรามีโอกาสหนีเอาตัวรอด
แต่หากเผลอไปช่วยตัวใดตัวหนึ่งด้วยความปรารถนาดี ตัวที่รอดมีหรือจะไม่จัดการเรา

หากคิดจะปราบคนเลวในองค์กร อย่าได้คิดไปค่อยๆเชือดทีละคน เพราะ 
1.คนที่เหลือจะมีพลังมากขึ้น
2.คนที่เหลือจะรู้ตัวว่าตนเองอาจเป็นรายต่อไป 

ดังนั้น ต้องจัดการทีเดียวทุกคนให้อยู่หมัด
ถ้ายังทำไม่ได้ ใจเย็นๆ ปล่อยไว้ก่อน เก็บตัวร้ายทุกตัวให้คานกันไว้
วางแผนให้แนบเนียน แล้วสยบในกระบี่เดียว



สามก๊ก อ่านสามจบ ยังคบได้

มีคำกล่าวล่ำลือถึงความเป็น สุดยอดตำราทางยุทธศาสตร์ ของ สามก๊ก ว่า อ่านสามจบคบไม่ได้  ฟังดูก็ไม่เชิงว่าจะเป็นการนิยมยกย่องสักเท่าไร เพราะเหตุที่คบไม่ได้ มิใช่ว่าจะเป็นคนเก่งกล้าสามารถ แต่หากจะเป็นคน เจ้าเล่ห์แสนกล ด้วยสามก๊กนั้นเต็มไปด้วยกลอุบาย หรือที่คบไม่ได้อาจเป็นเพราะ ท่าทางจะเป็นคนโง่เหลือกำลัง ที่ทนอ่านอยู่ได้ตั้งสามจบ

ผู้เขียนเองก็นับว่าอ่านสามก๊กมามากกว่าสามจบ ทั้งฉบับ เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ฉบับ วรรณไว พัธโนทัย ฉบับ ยาขอบ และฉบับ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อ่านแล้วก็ลืม ลืมแล้วก็อ่าน อ่านทุกครั้งก็สนุกทุกครั้ง ไม่วิเคราะห์ไม่คิดมากให้เสียเวลา อ่านเอาสนุก อ่านเป็นนิยาย
ก็คนเขียนเขาเขียนเป็นนิยาย จะไปอ่านเอาสาระทำไมกัน หาก หลอกว้านจง ผู้ประพันธ์ รู้เข้าก็คงจะงุนงงเป็นยิ่งนักที่สามก๊กกลายเป็นตำราพิชัยสงคราม ตำราการบริหารเชิงยุทธศาสตร์ ไปได้

ผู้เขียนฟัง อาปา เล่าเรื่องสามก๊กให้ฟังมาตั้งแต่เด็ก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องไหวพริบของตัวละครต่างๆในสามก๊ก ซึ่งก็เป็นเหตุทำให้ผู้เขียนสนใจอ่านสามก๊กเพื่อไปค้นหาข้อความที่อาปาเล่า ฉบับแรกที่อ่านก็เป็นฉบับ เจ้าพระยาพระคลัง(หน) เล่มใหญ่หนาที่บ้านอาโกว 

มานึกได้วันหนึ่งว่า น่าจะลองอ่านสามก๊กใหม่อีกสักหน คราวนี้จะลองอ่านแบบ อ่านเอาเรื่อง อ่านตรงที่คนอื่นเขาไม่อ่านกัน เพื่อยืนยันว่าอ่านอีกกี่จบก็น่าจะ ยังคบได้