ข้อเขียนต่อไปนี้ เป็นเพียงการสรุปบทเรียน ตามความเข้าใจของผู้เขียน ไม่ใช่ ข้อคิด ของผู้เขียนเอง
ผู้อ่าน พึงระมัดระวังในการตีความด้วยความบริสุทธิ์ใจ เด้อครับ
พระราชบัณฑิต รองเจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม บรรยายในหัวข้อ คุณธรรมสำหรับผู้บริหาร (เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๒ โรงแรมศรีอู่ทองแกรนด์ สุพรรณบุรี) ได้เล่านิทานสอนใจเรื่องหนึ่ง สรุปใจความได้ว่า
พระราชา ได้รับข้อมูลว่ามีบ้านหลังหนึ่งต้องร้างลงด้วยเหตุ อุบาทว์ลง ด้วยความเป็นพระราชาที่ดี เป็นห่วงว่าตัวอุบาทว์จะไปทำร้ายประชาชน จึงให้เหล่าเสนาอำมาตย์ช่วยกันไปจับเจ้าตัวอุบาทว์มาให้ได้ หากไม่ได้ก็จะลงโทษเหล่าเสนาอำมาตย์แทน (ตามสูตรของผู้มีอำนาจเขาละ......อันนี้ผู้เขียนว่าเอง)
เมื่อครบกำหนดเวลา ก็ยังไม่สามารถหาตัวได้ ร้อนถึงพระฤาษีต้องออกมาช่วยเหลือ จับเจ้าตัวอุบาทว์ใส่กระบอกไม้ไผ่ให้อำมาตย์นำไปถวายพระราชา พระฤาษีกำชับว่าเมื่อไปถึงให้ค่อยๆแง้มดูทีละคน โดยให้เริ่มที่พระราชานั่นแหละ
พระราชาดูแล้วก็บอกว่า เจ้าตัวอุบาทว์นี่มันหน้าตาเหมือนตุ๊กแก แล้วก็เวียนดูกันทั่วถึง ต่างคนก็ต่างถกเถียงกันให้วุ่นวายถึงรูปร่างหน้าตาของเจ้าอุบาทว์ ถึงขั้นชกต่อยกันวุ่นวายหน้าพระที่นั่ง(แปลว่าพระราชาไม่ได้ลงมาชกต่อยด้วย.....ผู้เขียน)
แสดงถึงฤทธิ์ร้ายของตัวอุบาทย์ ขนาดมาตัวเดียว แง้มๆดูยังวุ่นวายขนาดนี้
พระราชาจึงสั่งให้ผ่ากระบอกออกมาดูตัวอุบาทว์ พบว่า เจ้าตัวอุบาทว์ ก็คือชานหมากของพระฤาษีนั่นเอง
ท่านเจ้าคุณ เฉลยว่า อุบาทว์ ก็คือ ความเห็นที่ไม่ตรงกัน ทิฐิของคน ที่ถือตัว ถือตน ไม่รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ยึดแต่ความคิดเห็นของตนเป็นใหญ่
ท่านผู้บริหารครับ ระวัง อุบาทว์ลง ในที่ทำงานท่านนะครับ
หมายเหตุ ๑ อุบาทว์ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒ แปลว่า อัปรีย์ จัญไร ความไม่เป็นมงคล (ฉะนั้นท่านผู้อ่านอาจแทนที่เป็น อัปีรย์ลง หรือ จัญไรลง ก็แล้วแต่สะดวกครับ)