วันเสาร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

อำนาจเงิน



งุนงง หนักหนาเงินตราเจ้าเอย ไม่วายเว้นเลยทุกวี่วัน
ชมรมเชื่อถือเล่าลือลั่น งุ่นง่านแต่เงิน งก งง งัน เสียงซุบซิบกัน ออกแซ่ซ้อง

งมงาย เงียบเหงาถ้าเราขาดเงิน กลัดกลุ้มเหลือเกินดังเกิดกรรม
ใครมี ครึกครื้นทุกคืนค่ำ เจ้าจู่ เจ้าโจม ฝังใจจำ เนื้อนั้นมันนำ อำนาจ เงิน

มีเงินเดินซื้อ สินค้าได้ บางคราวเชื่อไหม แม้ใจที่แกร่งเกิน ยังถูกน้ำเงิน กระหน่ำเสียยับเยิน
โอ้เงิน เอ๋ยเงิน โอ้เงิน เอ๋ยเงิน อำนาจมันเกินจะเอื้อมอาจ คนเราเคารพ คบกันที่เงิน

ไม่มีเขาเมิน ดังหมดญาติ เงินตรานี่หรือ คือกระดาษ 
ผู้สร้างขึ้นมา ซิ อนาถ หลงใหลเป็นทาส อำนาจเงิน 

(คำร้อง - ทำนอง พยงค์ มุกดา)

เงิน ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต แต่การไม่มีเงินนั้นก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต สังคมปัจจุบันจึงยึดเอาเงินเป็นสรณะ

เรายอมรับกันว่า เงินเป็นที่สร้างสรรค์ทุกสิ่ง แม้ทำความดี ก็ต้องแลกด้วยเงิน เงินได้ซื้อจิตวิญญาณของเราไปหมดแล้ว !!!

ทุกอย่างตัดสินด้วยเงินจริงหรือ เงินแก้ปัญหาทุกอย่างได้จริงหรือ

หลวงพ่อ จรัญ ฐิตธมฺโม แห่ง วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี กล่าวไว้ว่า


เงินซื้อเตียงนอนได้ แต่ซื้อการหลับเป็นสุขไม่ได้
เงินซื้อกระดาษปากกาได้ แต่ซื้อความเป็นกวีไม่ได้
เงินซื้ออาหารดีๆได้ แต่ซื้อความอยากรับประทานไม่ได้
เงินซื้อความประจบสอพลอได้ แต่ซื้อความจริงใจไม่ได้
เงินซื้อการตามใจได้ แต่ซื้อความจงรักภักดีไม่ได้ ฯลฯ 

โดยสรุปว่า เงินซื้อหลายอย่างได้ แต่เงินซื้อความสุขไม่ได้ เงินจะสำคัญ เมื่อจำเป็นต้องใช้เท่านั้น

ปัญหาระบบงานสาธารณสุขเป็นสหปัจจัย เงินเป็นเพียงปัจจัยหนึ่ง เราจำเป็นต้องวิเคราะห์ร่วมกันอย่างจริงจังในแต่ละปัญหา ว่าอะไรคือสาเหตุ และจะต้องวางแผนแก้ไขอย่างไร แน่นอนว่าอาจจำเป็นต้องใช้เงินบ้าง แต่ผู้เขียนไม่เชื่อว่า เงินจะเป็นตัวแก้ ปัญหาในทุกเรื่อง

ตราบใดที่เราไม่ได้แก้สาเหตุของปัญหาแล้ว การเติมแต่เงินเพื่อซื้องานจึงเป็นเรื่อง ถมไม่เต็ม และไม่มีที่สิ้นสุด รังแต่จะเป็นปัญหาผูกพันไม่รู้จบ  ทั้งยังอาจเป็นการเพิ่มปัญหาให้ซับซ้อนมากขึ้น

งานที่เคยทำด้วยหัวใจกลับเปลี่ยนไปเป็นเพื่อเงิน ต้องมีเงินแลกเปลี่ยน คนดีกลายเป็นคนที่เห็นแก่เงิน (...บางคราวเชื่อไหม แม้ใจที่แกร่งเกิน ยังถูกน้ำเงิน กระหน่ำเสียยับเยิน โอ้เงิน เอ๋ยเงิน โอ้เงิน เอ๋ยเงิน อำนาจมันเกินจะเอื้อมอาจ ...)

เงินซื้อทุกอย่างได้ และ เงินก็ซื้อท่านได้เช้่นกัน

น่าสงสารแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกสาขาวิชาชีพ ที่ถูกดูหมิ่นเหยียดหยามว่าเป็นคนเห็นแก่เงิน ทุกอย่างต้องเอาเงินฟาดหัวใหั ทำงาน

โอ้เงิน เอ๋ยเงิน โอ้เงิน เอ๋ยเงิน อำนาจมันเกินจะเอื้อมอาจ






โพสครั้งแรกเมื่อ 28 ก.พ. 2552

วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

จั่งซี่ มันต้องถอน


ถอน มีความหมายตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ว่า ฉุดขึ้น ดึงขึ้น เช่น ถอนตะปู ถอนขน ถอนฟัน หรือ บอกเลิก เช่น ถอนหมั้น ถอนฟ้อง


แต่ ถอน กลับมีความหมายตรงกันข้ามได้เหมือนกัน คือ หากดื่มเหล้ามาแล้วเกิดอาการเมาค้าง ขี้เหล้า บอกว่า ให้ดื่มเติมเข้าไปอีก เรียกว่า ถอน นั่นคือ ถอนเหล้า แปลว่า เติมเหล้าลงไปอีก

หลายเรื่องราว หลายคำตอบที่ หนองบัวลำภู เป็นเรื่องที่ฟังแล้ว ให้รู้สึก งึกงึก งักงัก มันเป็น งึกงึก งักงัก

คือ มักตอบว่า ที่นี่เป็นอย่างนี้แหละ เป็นวัฒนธรรมของคนที่นี่ มากหน่อยก็บอกว่า เป็นวัฒนธรรมของคนหนองบัว หนักเข้าก็เลยขู่ว่า เป็น เปิง ของคนอีสาน

ก็เลยไม่คิดจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงใดๆ โดยเฉพาะแนวคิดในการทำงาน หากจะเปลี่ยนก็ สั่งมา

ฟังแล้วไม่รู้จะตอบยังไง มันเกิดอาการ กะอึกกะอัก มันเป็น จึกจึก จักจัก มันเป็น บ่คึก บ่คัก

จั่งซี่ มันต้องถอน จั่งซี่ มันต้องถอน

หลังจากนี้หากมี คำสั่ง ลงไปในเรื่องราวต่างๆ อย่าเพิ่งเข้าใจว่าผู้เขียนเปลี่ยน Concept

มันก็เป็นเพียงการ ถอน

จั่งซี่ มันต้องถอน จั่งซี่ มันต้องถอน................

ตกลงวันนี้ ละเมอ หรือว่า เมา


โพสต์ครั้งแรกที่ นอนละเมอที่หนองบัว 25-2-2009
http://daydream-nongbua.blogspot.com/2009/02/blog-post.html

วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

หมอเก่งๆ นะมีมั้ย ?


ช่วงนี้งานด้านสุขภาพของจังหวัดหนองบัวลำภูกำลังคึกคัก (อ๊ะ อ๊ะ ไม่ใช่จากหมอลำซิ่งนะครับ)

ทั้งนี้ก็มาจากการอบรมมากมาย อบรมงานปกติ อบรมงานตามนโยบาย อบรมโครงการพิเศษ อบรมครู ก. อบรมครู ข. (บางทีครู ก. ครู ข. ก็คนเดียวกัน !!!) อ่าน การอบรมไม่เหมือนท่องสูตรคูณ(ลานจอมป่วน) อีกสักรอบ

เจ้าหน้าที่สถานีอนามัย อยู่ใกล้ชิดกับประชาชน จะหายหน้าไปไหนต้องติดป้ายบอก (ไม่เหมือนผู้บริหารบิ๊กๆ ที่ไปราชการ แบบไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน แม้กระทั่งเจ้าตัว ป้ายหน้าห้องติดว่าอยู่ แปลว่ายังมีชีวิตอยู่ อิ อิ)
หน้าสถานีอนามัยช่วงนี้จึงมีป้ายว่า หมอไปอบรม ติดอยู่แทบจะทุกวัน เพราะทั้งอบรมวัณโรค อบรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมะเร็งตับ อบรมการจัดทำข้อมูล อบรมการใช้ web cam  อบรมห้าเสือปฐมภูมิ (5 เสือ ก็ 5 อบรม) ฯลฯ อบรมคนเดียวไม่ไหวก็แบ่งๆกันไป ฝ่ายผู้จัดก็กลัวผลงานตนจะไม่ออก ก็เลยจัดซ้อนกันบ้าง ซ้ำกันบ้าง บางวันหาใครไปไม่ได้ ก็ไปมันคนเดียว อบมันซะหลายๆห้อง
ท่านสาธารณสุขอำเภอเมือง (ท่านเดิมที่มีหลายๆเบอร์นั่นแหละครับ) เล่าให้ฟังว่า  คนไข้มาสถานีอนามัยทีไรก็เจอป้าย หมอไปอบรม
ก็เลยร้องมาว่า ช่วยหา หมอเก่งๆ มาอยู่ที่อนามัยได้บ่ เอาหมอที่เพิ่นเก่งๆ  ตอนเรียนได้คะแนนดีๆ  จะได้ไม่ต้องกลับไปอบรมบ่อยๆน่ะ

หมอเก่งๆนะมีมั้ย……..




[โพสต์ครั้งแรก ที่ Lanhinlad Lanpanya 22 Feb 2009]